๑๘
สิ
งหา...เรี
ยบเรี
ยง
สุ
นทรภู่
หรื
อ
พระยาสุ
นทรโวหาร
มี
นามเดิ
มว่
า
ภู่
เกิ
ดเมื่
อวั
นที่
๒๖ มิ
.ย. ๒๓๒๙ ที่
พระราชวั
งหลั
ง ในสมั
ย
พระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลกมหาราช (รั
ชกาล
ที่
๑) ซึ่
งปั
จจุ
บั
นเป็
นที่
ตั้
งของสถานี
รถไฟบางกอกน้
อย ส่
วน
บิ
ดาไม่
ทราบชื่
อ รู้
ว่
าเป็
นชาวบ้
านกร่ำ
� อ.แกลง จ.ระยอง ส่
วน
มารดาเป็
นข้
าหลวงในพระราชวั
งหลั
ง แต่
ได้
เลิ
กรากั
บบิ
ดา
ตั้
งแต่
สุ
นทรภู่
เกิ
ดแล้
ว
สุ
นทรภู่
ได้
รั
บการศึ
กษาครั้
งแรกที่
พระราชวั
งหลั
ง
และวั
ดชี
ปะขาว (วั
ดศรี
สุ
ดาราม) จากนั้
นได้
เข้
ารั
บราชการใน
ตำ
�แหน่
งเสมี
ยนระวางกรมพระคลั
งสวน เมื่
อวั
ยหนุ่
มสุ
นทรภู่
ได้
ต้
องใจผู้
หญิ
งคนหนึ่
งชื่
อ
จั
น
จึ
งได้
เขี
ยนเพลงยาวส่
งให้
นางจั
น จนบิ
ดามารดาของนางจั
นจั
บได้
แล้
วนำ
�ความไป
กราบทู
ลกรมพระราชวั
ง ทำ
�ให้
สุ
นทรภู่
และนางจั
นถู
กต้
อง
โทษจำ
�คุ
ก เมื่
อพ้
นโทษออกมาสุ
นทรภู่
จึ
งได้
เดิ
นทางไปเยี่
ยม
บิ
ดาที่
เมื
องแกลง จ.ระยอง
ด้
วยความที่
เป็
นคนชอบแต่
งโคลงกลอนมาตั้
งแต่
เด็
ก ทำ
�ให้
ในสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ย
(รั
ชกาลที่
๒) สุ
นทรภู่
ได้
เข้
ารั
บราชการในกรมอาลั
กษณ์
และด้
วยความสามารถในโคลงกลอนรวมทั้
งพระบาทสมเด็
จ
พระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ย ทรงโปรดเรื่
องโคลงกลอนเป็
น
อย่
างมาก ซึ่
งพระองค์
เองก็
ทรงเป็
นกวี
เอกที่
ได้
รั
บการยกย่
อง
เช่
นเดี
ยวกั
น สุ
นทรภู่
จึ
งได้
รั
บการแต่
งตั้
งเป็
น ขุ
นสุ
นทรโวหาร
โดยทำ
�หน้
าที่
ให้
คำ
�ปรึ
กษาเกี่
ยวกั
บเรื่
องโคลงกลอนต่
างๆ
ต่
อมาพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ยเสด็
จ
สวรรคต และพระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว (รั
ชกาล
ที่
๓) เสด็
จขึ้
นครองราชย์
สมบั
ติ
สื
บแทน สุ
นทรภู่
จึ
งถู
กให้
ออกจากราชการ หลั
งจากนั้
นจึ
งออกบวชและจำ
�พรรษาอยู่
ที่
วั
ดราชบู
รณะ และลาสิ
กขาในปี
พ.ศ. ๒๓๖๙ ขณะที่
บวช
อยู่
นั้
นสุ
นทรภู่
ได้
เดิ
นทางไปหลายแห่
ง และได้
แต่
งนิ
ราศไว้
หลายเรื่
องด้
วยกั
น อาทิ
นิ
ราศสุ
พรรณบุ
รี
นิ
ราศวั
ดเจ้
าฟ้
า
และนิ
ราศภู
เขาทอง เมื่
อถึ
งรั
ชสมั
ยของพระบาทสมเด็
จ
พระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว (รั
ชกาลที่
๔) สุ
นทรภู่
ได้
รั
บการ
สนั
บสนุ
นจากพระเจ้
าน้
องยาเธอพระบาทสมเด็
จพระปิ่
นเกล้
า
เจ้
าอยู่
หั
ว เนื่
องจากสุ
นทรภู่
ได้
แต่
งโคลงกลอนเป็
นที่
ต้
อง
พระราชหฤทั
ย จึ
งทำ
�ให้
ได้
ดำ
�รงตำ
�แหน่
ง
พระสุ
นทรโวหาร
จนกระทั่
งเสี
ยชี
วิ
ตในปี
พ.ศ. ๒๓๙๘
ถึ
งแม้
ว่
าสุ
นทรภู่
จะเสี
ยชี
วิ
ตไปแล้
ว แต่
ผลงานของ
สุ
นทรภู่
ก็
ยั
งเป็
นที่
ยกย่
องจากคนทั่
วไป เนื่
องจากมี
ความ
ไพเราะ มี
คติ
สอนใจ นอกจากนี้
ยั
งเป็
นผลงานที่
ทรงคุ
ณค่
า