Page 6 - july53

Basic HTML Version

เรื่
องจากปก
วั
นสำ
�คั
ญแห่
งชาติ
วั
นหนึ่
งที่
มี
ความหมายยิ่
งยวด
ในทางวั
ฒนธรรมคื
อวั
นภาษาไทยแห่
งชาติ
ซึ่
งตรงกั
บวั
นที่
๒๙ กรกฎาคม ของทุ
กปี
การที่
กำ
�หนดวั
นภาษาไทยแห่
งชาติ
ให้
เป็
นวั
นนี้
สื
บเนื่
องมาจากพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ภู
มิ
พลอดุ
ลยเดชเสด็
จพระราชดำ
�เนิ
นเป็
นการส่
วนพระองค์
ไปร่
วมการประชุ
มของชุ
มนุ
มภาษาไทย คณะอั
กษรศาสตร์
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย ณ ห้
องประชุ
มคณะอั
กษรศาสตร์
เมื่
อวั
นที่
๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ นอกจากการประชุ
ของคณะกร รมกา รฯตามปกติ
แล้
ว ศาสตร าจา รย์
หม่
อมราชวงศ์
สุ
มนชาติ
สวั
สดิ
กุ
ล ประธานชุ
มนุ
ภ า ษ า ไ ทย ไ ด้
ก ร า บบั
ง คมทู
ล เ ชิ
ญพ ร ะ บ า ทสม เ ด็
พระเจ้
าอยู่
หั
วทรงเป็
นประธานการประชุ
มวิ
ชาการ ใน
หั
วข้
“ปั
ญหาการใช้
คำ
�ไทย”
อั
นเป็
นหั
วข้
อเรื่
องที่
ทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ พระราชทานมา ในการ
ประชุ
มวิ
ชาการครั้
งนั้
น พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
พระราชทานกระแสพระดำ
�ริ
เกี่
ยวกั
บเรื่
องภาษาไทยไว้
มากมาย และยั
งทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
ศาสตราจารย์
หม่
อมราชวงศ์
สุ
มนชาติ
สวั
สดิ
กุ
ล พระเจ้
าวรวงศ์
เธอ
กรมหมื่
นนราธิ
ปพงศ์
ประพั
นธ์
นายสุ
กิ
จ นิ
มมานเหมิ
นทร์
หม่
อมหลวงบุ
ญเหลื
อ เทพยสุ
วรรณ หม่
อมราชวงศ์
คึ
กฤทธิ์
ปราโมช และศาสตราจารย์
นายแพทย์
อวย เกตุ
สิ
งห์
ร่
วม
แสดงความคิ
ดเห็
นต่
อที่
ประชุ
มด้
วย การประชุ
มวิ
ชาการ
ครั้
งนี้
เป็
นเรื่
องพิ
เศษเพราะเป็
นพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณอย่
าง
หาที่
เปรี
ยบมิ
ได้
ที่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วเสด็
พระราชดำ
�เนิ
นมาเป็
นการส่
วนพระองค์
และพระราชทาน
กระแสพระราชดำ
�ริ
อั
นเป็
นประโยชน์
ยิ่
งต่
อนั
กวิ
ชาการและ
ประชาชนทั่
วไปให้
ตระหนั
กถึ
งเรื่
องการใช้
ภาษาไทยให้
ถู
กต้
อง
และเหมาะสม มี
ผู้
เข้
ารั
บฟั
งการประชุ
มครั้
งนี้
ถึ
ง ๔๐๐ คน
การประชุ
มใช้
เวลา ๒ ชั่
วโมง ๒๐ นาที
มี
ผู้
อั
ญเชิ
ญกระแสพระราชดำ
�ริ
เรื่
อง
“ปั
ญหาการ
ใช้
คำ
�ไทย”
ในการประชุ
มวิ
ชาการครั้
งนั้
นมาเผยแพร่
อยู่
เสมอ ดั
งเช่
น กระแสพระราชดำ
�ริ
เกี่
ยวกั
บปั
ญหาภาษาไทย
๓ ประการ คื
อเรื่
องเสี
ยง วิ
ธี
สร้
างประโยค และความร่ำ
�รวยของ
คำ
�ภาษาไทย ซึ่
งทั้
ง ๓ ประการนี้
เป็
นสิ่
งที่
คนไทยต้
องอนุ
รั
กษ์
ไว้
ดั
งปรากฏในกระแสพระราชดำ
�ริ
ว่
“เรามี
โชคดี
ที่
มี
ภาษาของตนเองมาแต่
โบราณกาล
จึ
งสมควรอย่
างยิ่
งที่
จะรั
กษาไว้
ปั
ญหาเฉพาะในด้
านรั
กษา
ภาษานี้
มี
หลายประการ อย่
างหนึ่
งต้
องรั
กษาให้
บริ
สุ
ทธิ์
ในทางออกเสี
ยง คื
อให้
ออกเสี
ยงให้
ถู
กต้
องชั
ดเจน อี
กอย่
าง
หนึ
งคื
อต้
องรั
กษาให้
บริ
สุ
ทธิ์
ในวิ
ธี
ใช้
หมายความว่
าวิ
ธี
นำ
คำ
�มาประกอบเป็
นประโยค นั
บเป็
นปั
ญหาที่
สำ
�คั
ญ ปั
ญหา
ที่
สามคื
อความร่ำ
�รวยในคำ
�ของภาษาไทยซึ่
งพวกเรานึ
กว่
ไม่
ร่ำ
�รวยพอ จึ
งต้
องมี
การบั
ญญั
ติ
ศั
พท์
ใหม่
มาใช้
นั
บเป็
นเวลา ๔๘ ปี
แล้
วที่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
พระราชทานกระแสพระราชดำ
�ริ
เรื่
องภาษาไทยด้
วยความ
ห่
วงใย และยั
งมี
พระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณพระราชทานกระแส
พระราชดำ
�ริ
ไว้
ในพระบรมราโชวาทและพระราชดำ
�รั
สเนื่
อง
ในโอกาสอื่
น ๆ มี
มากมาย สะท้
อนให้
เห็
นว่
าพระบาทสมเด็
ศ.ดร.รื่
นฤทั
ย สั
จจพั
นธุ์
...เรื่
อง
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว เสด็
จฯร่
วมการประชุ
มของชุ
มนุ
ภาษาไทย ณ จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย เมื่
อวั
นที่
๒๙ ก.ค. ๒๕๐๕