๒. คำ
�นามที่
ใช้
เป็
นชื่
อสามั
ญทั่
วไป นำ
�หน้
าด้
วย
คำ
� “พระ” เช่
น พระหั
ตถ์
พระบาท พระกร พระแท่
น
พระเคราะห์
เป็
นต้
น
๓. คำ
�นามที่
ต่
อท้
ายด้
วยคำ
�ว่
า “ต้
น” และ
“หลวง” เช่
น ประพาสต้
น ช้
างต้
น เรื
อนต้
น วั
งหลวง
รถหลวง เรื
อหลวง ส่
วน “หลวง” ที่
แปลว่
าใหญ่
ไม่
จั
ด
ว่
าเป็
นคำ
�ราชาศั
พท์
เช่
น ทะเลหลวง เขาหลวง ภรรยา
หลวง
๔. คำ
�นามที่
ใช้
คำ
�ไทยประสมกั
บคำ
�ต่
างประเทศ
เช่
น ริ
มพระโอษฐ์
เส้
นพระเกศา ฝ่
าพระบาท ลาย
พระหั
ตถ์
ช่
องพระนาสิ
ก ขอบพระเนตร เป็
นต้
น
การใช้
คำ
�สรรพนามราชาศั
พท์
มี
หลั
กเกณฑ์
ดั
งนี้
คำ
�สรรพนามใช้
แทนบุ
รุ
ษที่
๑
บุ
คคลทั่
วไป ใช้
คำ
�ว่
า ข้
าพระพุ
ทธเจ้
า
คำ
�สรรพนามใช้
แทนบุ
รุ
ษที่
๒
บุ
คคลทั่
วไป ใช้
คำ
�ว่
า ใต้
ฝ่
าละอองธุ
ลี
พระบาท
คำ
�สรรพนามใช้
แทนบุ
รุ
ษที่
๓
บุ
คคลทั่
วไป ใช้
ว่
า พระองค์
, พระองค์
ท่
าน
การใช้
คำ
�กริ
ยาราชาศั
พท์
มี
หลั
กเกณฑ์
ที่
สำ
�คั
ญ ดั
งนี้
๑. ใช้
“ทรง” นำ
�หน้
าคำ
�กริ
ยาธรรมดา เช่
น
ทรงยื
น ทรงยิ
นดี
ทรงชุ
บเลี้
ยง ทรงฟั
ง ทรงมี
เหตุ
ผล
ทรงตั
ดสิ
น เป็
นต้
น
๒. ใช้
“ทรง” นำ
�หน้
าคำ
�นามธรรมดา เช่
น
ทรงศี
ล ทรงธรรม ทรงดนตรี
ทรงบาตร เป็
นต้
น
๓. ใช้
“เสด็
จ” นำ
�หน้
าคำ
�กริ
ยาบางคำ
� เช่
น
เสด็
จขึ้
น เสด็
จลง เสด็
จกลั
บ เสด็
จออก เสด็
จไป เป็
นต้
น
๔. ใช้
“เสด็
จ” นำ
�หน้
าคำ
�นามราชาศั
พท์
เป็
น
คำ
�กริ
ยาราชาศั
พท์
เช่
น เสด็
จพระราชสมภพ เสด็
จ
พระราชดำ
�เนิ
น คำ
�เสด็
จพระราชดำ
�เนิ
น หมายถึ
ง
เดิ
นทางโดยยานพาหนะ หรื
อเดิ
นทางตามทางลาด
พระบาท ต้
องเติ
มคำ
�ที่
เป็
นใจความไว้
ข้
างหลั
ง เช่
น เสด็
จ
พระราชดำ
�เนิ
นตรวจพลสวนสนาม
๕. ไม่
ใช้
“ทรง” นำ
�หน้
าคำ
�กริ
ยาราชาศั
พท์
เช่
น
ตรั
ส โปรด ถวาย ทู
ล ประสู
ติ
เป็
นต้
น
๖. ใช้
คำ
�ไทยประสมกั
บคำ
�ต่
างประเทศให
เป็
นคำ
�กริ
ยาราชาศั
พท์
เช่
น ขอบพระทั
ย สนพระทั
ย
ทอดพระเนตร แย้
มพระโอษฐ์
เอาพระทั
ยใส่
ลง
พระปรมาภิ
ไทย เป็
นต้
น
การใช้
คำ
�กราบบั
งคมทู
ล
มี
หลั
กเกณฑ์
ดั
งนี้
คำ
�ขึ้
นต้
น : ขอเดชะฝ่
าละอองธุ
ลี
พระบาทปกเกล้
า
ปกกระหม่
อม
คำ
�ลงท้
าย : ด้
วยเกล้
าด้
วยกระหม่
อมขอเดชะ
เมื่
อจะกราบบั
งคมทู
ลเรื่
องใด ควรใช้
ข้
อความที่
แสดงถึ
งเรื่
องที่
จะกราบบั
งคมทู
ล โดยเริ่
มต้
นข้
อความ
ให้
เหมาะสมกั
บเรื่
องที่
จะกราบบั
งคมทู
ล ดั
งนี้
๑. เมื่
อกล่
าวถึ
งความสะดวกสบายหรื
อรอดพ้
น
อั
นตราย ใช้
ข้
อความว่
า ขอเดชะพระบารมี
ปกเกล้
า
ปกกระหม่
อม
๒. เมื่
อกล่
าวถึ
งข้
อความที่
หยาบหรื
อไม่
เหมาะสม
ใช้
ข้
อความว่
า ไม่
บั
งควรจะกราบบั
งคมทู
ลพระกรุ
ณา
๓. เมื่
อกล่
าวถึ
งการที่
ได้
ทำ
�ผิ
ดพลาด หรื
อทำ
�ใน
สิ่
งที่
ไม่
ควรใช้
ข้
อความว่
า พระราชอาญาไม่
พ้
นเกล้
า พ้
น
กระหม่
อม
๔. เมื่
อกล่
าวข้
อความเป็
นการขอบพระคุ
ณ ใช้
ข้
อความว่
า พระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณ ล้
นเกล้
าล้
นกระหม่
อม
๕. เมื่
อกล่
าวข้
อความเป็
นกลาง เพื่
อจะได้
ทรง
เลื
อกให้
ใช้
ข้
อความลงท้
ายคำ
�กราบบั
งคมทู
ลว่
า การจะ
ควรมิ
ควรประการใด สุ
ดแล้
วแต่
จะทรงพระกรุ
ณาโปรด
เกล้
าโปรดกระหม่
อม
๖. เมื่
อจะกราบบั
งคมทู
ลความเห็
นของตน ใช้
ข้
อความว่
า เห็
นด้
วยเกล้
าด้
วยกระหม่
อม
๗. เมื่
อจะกราบบั
งคมทู
ลขอพระบรมราชานุ
ญาต
ใช้
ข้
อความว่
า ขอพระราชทานพระบรมราชานุ
ญาต
๘. เมื่
อจะกราบทู
ลถึ
งสิ่
งที่
ทราบมา ใช้
ข้
อความ
ว่
า ทราบเกล้
าทราบกระหม่
อมว่
า
๙. เมื่
อจะกราบบั
งคมทู
ลถึ
งการทำ
�สิ่
งใดสิ่
งหนึ่
ง
ถวาย ใช้
ข้
อความว่
า สนองพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณ
๑o. เมื่
อจะขอพระราชทานโอกาสทำ
�สิ่
งใดสิ่
งหนึ่
ง
ใช้
ข้
อความว่
า ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส
๑๘