Page 18 - sep52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
16
พิ
พิ
ธภั
ณฑสถานแห่
งชาติ
พระนคร เป็
นพิ
พิ
ธภั
ณฑสถานแห่
งชาติ
ที่
เป็
นศู
นย์
กลางในการเก็
บรวบรวมวั
ตถุ
และจั
ดแสดงเรื่
องราวทางด้
าน
ประวั
ติ
ศาสตร์
โบราณคดี
ประวั
ติ
ศาสตร์
ศิ
ลปะ ประณี
ตศิ
ลป์
และ
ชาติ
พั
นธุ์
วิ
ทยาของชาติ
โดยส่
วนรวมอาคารจั
ดแสดงประกอบด้
วย
หมู่
พระราชมณเฑี
ยรเดิ
มในพระราชวั
งบวรสถานมงคล อาคารสถาปั
ตยกรรม
ที่
สำคั
ญจากพระราชวั
งอื่
น ๆ และอาคารที่
สร้
างขึ้
นใหม่
เพื่
อการจั
ดแสดง
ดั
งนี้
พระที่
นั่
งศิ
วโมกขพิ
มาน
สร้
างขึ้
นในสมั
ยรั
ชกาลที่
๑ ต่
อมา
ในสมั
ยกรมพระราชวั
งบวรมหาศั
กดิ
พลเสพย์
ในรั
ชกาลที่
๓ รื้
อและสร้
าง
ขึ้
นใหม่
เคยใช้
เป็
นท้
องพระโรงและที่
บำเพ็
ญพระราชกุ
ศลต่
าง ๆ มี
ลั
กษณะ
เป็
นอาคารทรงไทย ด้
านหน้
าของพระที่
นั่
งเป็
นห้
องจั
ดแสดงประวั
ติ
ศาสตร์
ชาติ
ไทย แสดงเรื่
องราวในอดี
ต ตั้
งแต่
สมั
ยก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
สมั
ยประวั
ติ
ศาสตร์
เมื่
อแรกรั
บอารยธรรมจากอิ
นเดี
ย อาณาจั
กรโบราณ และประวั
ติ
ศาสตร์
ราชอาณาจั
กรไทยสมั
ยสุ
โขทั
ย อยุ
ธยา และรั
ตนโกสิ
นทร์
ส่
วนอาคาร
ด้
านหลั
งจั
ดแสดงโบราณคดี
สมั
ยก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
ในประเทศไทย
พระที่
นั่
งพุ
ทไธสวรรย์
เดิ
มชื่
อพระที่
นั่
งสุ
ทธาสวรรย์
สร้
างขึ้
ในสมั
ยกรมพระราชวั
งบวรมหาสุ
รสิ
งหนาทในรั
ชกาลที่
๑ ปฏิ
สั
งขรณ์
สมั
ยกรมพระราชวั
งบวรมหาศั
กดิ
พลเสพย์
ภายในเขี
ยนภาพจิ
ตรกรรมเป็
ภาพเทพชุ
มนุ
มและพุ
ทธประวั
ติ
ปั
จจุ
บั
นเป็
นที่
ประดิ
ษฐานพระพุ
ทธสิ
หิ
งค์
พระพุ
ทธรู
ปสำคั
ญของวั
งหน้
พระที่
นั่
งอิ
ศราวิ
นิ
จฉั
เป็
นอาคารมุ
ขหน้
าหมู่
พระวิ
มาน สร้
างขึ้
ในสมั
ยกรมพระราชวั
งบวรมหาศั
กดิ
พลเสพย์
ใช้
เป็
นห้
องท้
องพระโรง
และบำเพ็
ญกุ
ศลต่
าง ๆ สิ่
งที่
ควรชมในพระที่
นั่
งองค์
นี้
คื
อ พระที่
นั่
บุ
ษบกมาลา บุ
ษบกราชบั
ลลั
งก์
ที่
เสด็
จออกรั
บแขกเมื
องของกรมพระราชวั
บวรสถานมงคล ปั
จจุ
บั
นพระที่
นั่
งอิ
ศราวิ
นิ
จฉั
ยใช้
เป็
นที่
จั
ดแสดง
นิ
ทรรศการพิ
เศษ
หมู่
พระวิ
มาน
ประกอบด้
วยหมู่
พระวิ
มานเรี
ยงกั
น ๓ หลั
เชื่
อมต่
อถึ
งกั
นด้
วยหมู่
พระที่
นั่
งต่
าง ๆ คั่
นด้
วยที่
ว่
างและสวนหลั
งทิ
ศใต้
มี
ชื่
อว่
าพระที่
นั่
งวสั
นตพิ
มาน หลั
งกลางชื่
อพระที่
นั่
งวายุ
สถานอมเรศ
และหลั
งทิ
ศเหนื
อชื่
อพระที่
นั่
งพรหมเมศธาดา ปั
จจุ
บั
นใช้
เป็
นที่
จั
ดแสดง
ประณี
ตศิ
ลป์
และชาติ
พั
นธุ์
วิ
ทยา วั
ตถุ
ที่
จั
ดแสดงมี
ทั้
งเครื่
องทอง เครื่
องเงิ
เครื่
องราชยานคามหาม เครื่
องถ้
วย เครื่
องมุ
ก อาวุ
ธโบราณ เครื่
องแต่
งกาย
และผ้
าโบราณ เครื่
องดนตรี
เครื่
องใช้
เนื่
องในพระพุ
ทธศาสนา
และเครื่
องการละเล่
นแต่
โบราณของไทยต่
าง ๆ
ตำหนั
กแดง
เป็
นสถาปั
ตยกรรมที่
แสดงให้
เห็
นถึ
งเรื
อนของ
ผู้
มี
บรรดาศั
กดิ์
สู
ง สร้
างด้
วยไม้
สั
กทั้
งหลั
ง ขนาดเรื
อน ๗ ห้
อง หลั
งคา
ยกช่
อฟ้
า ใบระกา หางหงส์
ตั
วเรื
อนทำฝาปะกนหย่
องหน้
าต่
าง ดุ
มอกและ
อกเลาเชิ
งล่
างบนบาน หน้
าต่
างแกะสลั
กลวดลายอย่
างงดงาม ภายใน
จั
ดแสดงอย่
างตำหนั
กของเจ้
านายโบราณ จั
ดแสดงสิ่
งของส่
วนพระองค์
ของสมเด็
จพระศรี
สุ
ริ
เยนทราบรมราชิ
นี
และเครื่
องเรื
อนของใช้
ในสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
พระที่
นั่
งอิ
ศเรศราชานุ
สรณ์
เป็
นตำหนั
กที่
ประทั
บของ
พระบาทสมเด็
จพระปิ่
นเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว สร้
างขึ้
นในรั
ชกาลที่
๔ ตามแบบ
อาคารยุ
โรป ปั
จจุ
บั
นจั
ดแสดงเฉพาะชั้
นบนด้
วยเครื่
องเรื
อนแบบตะวั
นตก
ที่
สำคั
ญคื
อพระที่
นั่
งโทรนองค์
แรกในรั
ชกาลที่
๕ พระเก้
าอี้
และโต๊
ะทรง
พระอั
กษรของรั
ชกาลที่
๖ พระที่
นั่
งโทรนของพระบาทสมเด็
จพระปิ่
นเกล้
า-
เจ้
าอยู่
หั
วและกรมพระราชวั
งบวรวิ
ชั
ยชาญ และพระแท่
นบรรทมของพระบาท
สมเด็
จพระปิ่
นเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วและพระแท่
นบรรทมของรั
ชกาลที่
๖ เป็
นต้
ของโลก พบครั้
งแรกในประเทศไทยและเป็
นซากไดโนเสาร์
ที่
สมบู
รณ์
สุ
แห่
งหนึ่
งของโลก เป็
นความภาคภู
มิ
ใจของคนไทยทุ
กคน พื้
นที่
ภายใน
พิ
พิ
ธภั
ณฑ์
ได้
ถู
กบรรจุ
ให้
เป็
นแหล่
งท่
องเที่
ยวทางวิ
ชาการ ด้
วยการพั
ฒนา
จากผู้
ชำนาญการด้
านโบราณชี
ววิ
ทยา การสร้
างเครื
อข่
ายการศึ
กษา
และวิ
จั
ยซากดึ
กดำบรรพ์
ระหว่
างนั
กวิ
ทยาศาสตร์
ไทยกั
บนั
กวิ
ทยาศาสตร์
นานาประเทศ ประชาชนที่
เข้
าเที่
ยวชมยั
งจะได้
พบกั
นนิ
ทรรศการด้
าน
ธรณี
วิ
ทยาและโบราณชี
ววิ
ทยา ซึ่
งได้
ออกแบ่
งออกเป็
น ๓ ส่
วน นั่
นคื
นิ
ทรรศการถาวร นิ
ทรรศการชั่
วคราว และนิ
ทรรศการกลางแจ้
ง ที่
จะเป็
นการ
จั
ดแสดงเรื่
องราวตั้
งแต่
กำเนิ
ดโลก กำเนิ
ดสิ่
งมี
ชี
วิ
ต การวิ
วั
ฒนาการของ
สิ่
งมี
ชี
วิ
ตจนกระทั่
งเกิ
ดไดโนเสาร์
จนสุ
ดท้
ายเป็
นยุ
คของมนุ
ษย์
ครองโลก
ถั
ดจากพื้
นที่
แสดงโครงกระดู
กไดโนเสาร์
จำลอง เป็
นห้
องปฏิ
บั
ติ
การโบราณ
ชี
ววิ
ทยาสั
ตว์
มี
กระดู
กสั
นหลั
ง ซึ่
งเป็
นห้
องที่
รวบรวมฟอสซิ
ลไดโนเสาร์
ที่
ค้
นพบทั่
วประเทศ เพื่
อนำมาทำความสะอาดและซ่
อมแซมส่
วนที่
แตกหั
โดยนั
กวิ
จั
ยจะทำการศึ
กษากระดู
กเพื่
อระบุ
ชนิ
ดและอายุ
ด้
วยการนั่
ทำงานในห้
องปฏิ
บั
ติ
การฯ นี้
โดยผู้
เข้
าชมพิ
พิ
ธภั
ณฑ์
สามารถชมวิ
ธี
การ
ทำงานของนั
กวิ
จั
ยผ่
านกระจกได้
พิ
พิ
ธภั
ณฑ์
สิ
ริ
นธร เปิ
ดให้
บริ
การทุ
กวั
น (ทั้
งวั
นธรรมดาและวั
นหยุ
ด)
เวลา ๘.๓๐-๑๗.๓๐ นาฬิ
กา โดยเปิ
ดให้
เข้
าชมโดยไม่
เสี
ยค่
าใช้
จ่
ายใด ๆ
หรื
อสอบถามรายละเอี
ยดเพิ่
มเติ
มได้
ที่
โทร. ๐ ๔๓๘๗ ๑๐๑๔
พิ
พิ
ธภั
ณฑสถานแห่
งชาติ
พระนคร กรุ
งเทพมหานคร
พิ
พิ
ธภั
ณฑสถานแห่
งชาติ
พระนคร นั
บเป็
นพิ
พิ
ธภั
ณฑสถาน
สำหรั
บประชาชนแห่
งแรกในประเทศไทยที่
มี
รากฐานมาจากพิ
พิ
ธภั
ณฑสถาน
ส่
วนพระองค์
ของพระบาทสมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ซึ่
งตั้
งขึ้
นเมื่
อปี
พ.ศ. ๒๔๐๒ โดยโปรดเกล้
าฯ ให้
สร้
างพระที่
นั่
งองค์
หนึ่
งขึ้
นในหมู่
พระอภิ
เนาวนิ
เวศน์
ในพระบรมมหาราชวั
งพระราชทานนามว่
“ประพาส
พิ
พิ
ธภั
ณฑ์
เพื่
อใช้
เป็
นที่
จั
ดตั้
งแสดงศิ
ลปะโบราณวั
ตถุ
ที่
ทรงรวบรวมไว้
แต่
มิ
ได้
เปิ
ดให้
ประชาชนทั่
วไปได้
เข้
าชมพิ
พิ
ธภั
ณฑสถานในครั้
งนั้
เรี
ยกทั
บศั
พท์
ภาษาอั
งกฤษว่
“มิ
วเซี
ยม”
๑๐
๘-๑๐ พิ
พิ
ธภั
ณฑสถานแห่
งชาติ
พระนคร