Page 13 - may52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
11
นพื
ชมงคล
หมายถึ
ง วั
นที่
กำหนดพิ
ธี
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ถื
อเป็
นพระราชพิ
ธี
เก่
าแก่
มาแต่
โบราณที่
เสริ
มสร้
างให้
เกิ
ขวั
ญและกำลั
งใจให้
แก่
เกษตรกรของชาติ
พระราชพิ
ธี
มงคล
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญนั้
น มี
พิ
ธี
กรรม 2 พิ
ธี
ที่
กระทำ
ร่
วมกั
นคื
อ พิ
ธี
พื
ชมงคลกั
บพิ
ธี
แรกนาขวั
พิ
ธี
พื
ชมงคล
เป็
นพิ
ธี
ทำขวั
ญเมล็
ดพื
ชพั
นธุ์
ต่
าง ๆ เช่
น ข้
าว
ข้
าวเปลื
อกเจ้
า ข้
าวเหนี
ยว ข้
าวฟ่
าง ข้
าวโพด ถั่
ว งา เผื
อก มั
น เป็
นต้
มี
จุ
ดมุ่
งหมายที่
จะให้
เมล็
ดพั
นธุ์
เหล่
านั้
น ปราศจากโรคภั
ยและให้
อุ
ดมสมบู
รณ์
เจริ
ญงอกงามดี
พิ
ธี
แรกนาขวั
เป็
นพิ
ธี
การเริ่
มไถนา เพื่
อหว่
านเมล็
ดข้
าว
มี
จุ
ดมุ่
งหมายที่
จะให้
เป็
นอาณั
ติ
สั
ญญาณว่
า บั
ดนี้
ฤดู
แห่
งการทำนา และ
เพาะปลู
กได้
เริ่
มขึ้
นแล้
การจั
ดงานพระราชพิ
ธี
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญ เป็
นพระราชพิ
ธี
โบราณที่
มี
มาตั้
งแต่
ครั้
งกรุ
งสุ
โขทั
ยเป็
นราชธานี
แต่
มี
เพี
ยงพิ
ธี
พราหมณ์
เท่
านั้
น จึ
งใช้
ชื่
อในครั้
งนั้
นว่
า พระราชพิ
ธี
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญ ในเวลา
นั้
นเมื่
อถึ
งวั
นประกอบพระราชพิ
ธี
พระมหากษั
ตริ
ย์
จะเสด็
จออกเป็
องค์
ประธาน พระราชพิ
ธี
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญนี้
ได้
ตกทอดมาจนถึ
สมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยา แต่
ได้
มี
การเปลี่
ยนแปลงในเรื่
องของพิ
ธี
กรรมบางอย่
าง คื
พระมหากษั
ตริ
ย์
มิ
ได้
ทรงออกเป็
นองค์
ประธานในพระราชพิ
ธี
แต่
ทรงมอบ
อำนาจให้
ผู้
อื่
นกระทำแทนพระองค์
ส่
วนองค์
พระมหากษั
ตริ
ย์
นั้
นจะทรง
จำศี
ลเงี
ยบเป็
นเวลา ๓ วั
น และถื
อปฏิ
บั
ติ
เช่
นนี้
มาจนกระทั่
งสมั
ยอยุ
ธยา
ตอนปลาย เมื่
อถึ
งสมั
ยกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
พระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลก
มหาราช รั
ชกาลที่
๑ ก็
มิ
ได้
ทรงละทิ้
งพระราชพิ
ธี
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
แต่
อย่
างใด เพี
ยงแต่
เปลี่
ยนพิ
ธี
กรรมบางอย่
าง คื
อ ผู้
ที่
ทำหน้
าที่
พระยาแรกนานั้
เป็
นเจ้
าพระยาพหลเทพ ต่
อมาในสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
รั
ชกาลที่
๓ ทรงให้
ผู้
ที่
ยื
นชิ
งช้
าถื
อตำแหน่
งพระยาแรกนาอี
กอย่
างหนึ่
เมื่
อถึ
งรั
ชสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว รั
ชกาลที่
๔ โปรดเกล้
าฯ
ให้
เพิ่
มพิ
ธี
เกี่
ยวกั
บศาสนาพุ
ทธเข้
าไปด้
วย จึ
งมี
ชื่
อว่
า พระราชพิ
ธี
พื
ชมงคล
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญ ตั้
งแต่
บั
ดนั้
นเป็
นต้
นมา แต่
มี
อั
นต้
องเลิ
กร้
างไป
เมื่
อปี
พ.ศ. ๒๔๗๙ ด้
วยปั
ญหาเกี่
ยวกั
บบ้
านเมื
องหลายอย่
าง ต่
อมาในปี
พ.ศ. ๒๕๐๓ พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วภู
มิ
พลอดุ
ลยเดช รั
ชกาลที่
ทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
ฟื้
นฟู
พระราชพิ
ธี
พื
ชมงคลจรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ขึ้
นมาอี
กครั้
พระราชพิ
ธี
พื
ชมงคลจรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญประกอบด้
วย ๒ พิ
ธี
ได้
แก่
ในวั
นแรกจะประกอบพระราชพิ
ธี
พื
ชมงคลเป็
นพิ
ธี
ในศาสนาพุ
ทธ
จั
ดขึ้
น ณ พระอุ
โบสถวั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวั
ง และ
ในวั
นที่
๒ จะประกอบพระราชพิ
ธี
จรดพระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญเป็
นพิ
ธี
ทาง
ศาสนาพราหมณ์
จั
ดขึ้
น ณ ลานพระราชพิ
ธี
ท้
องสนามหลวง โดยพระราชพิ
ธี
จะเริ่
มกระทำเมื่
อประธานในพิ
ธี
ได้
แก่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว หรื
ผู้
แทนพระองค์
เสด็
จประทั
บ ณ พลั
บพลา เมื่
อได้
อุ
ดมฤกษ์
โหรหลวงจะบู
ชา
พระฤกษ์
และลั่
นฆ้
องชั
ย ขบวนพระยาแรกนา ซึ่
งประกอบด้
วย พระยาแรกนา
(ผู้
ทำหน้
าที่
ในการไถ และหว่
านเมล็
ดข้
าวลงในแปลงนาพระราชพิ
ธี
) เทพี
ปิ
ยนั
นท์
สุ
ริ
วั
ฒน์
...เรี
ยบเรี
ยง
วั
นพื
ชมงคล
วั
(ข้
าราชการพลเรื
อนสามั
ญชั้
นโทขึ้
นไปและเป็
นสตรี
โสด สั
งกั
ดกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์
) คู่
หาบทอง ๒ คน เทพี
คู่
หาบเงิ
น ๒ คน รวม ๔ คน
ราชบั
ณฑิ
ตเชิ
ญพระเต้
าเทวบิ
ฐบรรจุ
น้
ำพระพุ
ทธมนต์
๑ ท่
าน พราหมณ์
เป่
าสั
งข์
๒ ท่
าน พราหมณ์
เชิ
ญพระโคอุ
ศุ
ภราช ๑ ท่
าน พราหมณ์
ถื
อกรรชิ
ง (เครื่
องสู
สำหรั
บกั
นแดด มี
ลั
กษณะคล้
ายฉั
ตร) หน้
า ๒ ท่
าน หลั
ง ๒ ท่
าน และพระโค
๑ คู่
เริ่
มเคลื่
อนขบวน โดยพระยาแรกนาจั
บหางคั
นไถมื
อหนึ่
ง และถื
พระแสงปฏั
กอี
กมื
อหนึ่
ง เดิ
นไถดะทั้
งหมด ๓ รอบ ในระหว่
างนั้
นราชบั
ณฑิ
พรมน้
ำพระพุ
ทธมนต์
ลงบนพื้
นดิ
น ต่
อจากนั้
นในรอบที่
๔ พระยาแรกนา
เริ่
มหว่
านเมล็
ดข้
าวลงในแปลงนาจนครบ ๓ รอบ รวมทั้
งหมด ๙ รอบ พนั
กงาน
พิ
ธี
ปลดแอกออกจากพระโค พระยาแรกนา พร้
อมเทพี
ทั้
ง ๔ กลั
บไปยั
งโรง
พิ
ธี
พราหมณ์
หลั
งจากนั้
นก็
จะเป็
นพิ
ธี
ตั้
งเลี้
ยงพระโค
โดยพราหมณ์
ในพิ
ธี
จะเป็
นผู้
ที่
นำอาหารมาตั้
งเลี้
ยงพระโค โดย
ใส่
ในกระทงวางบนถาด อาหารของพระโคมี
๗ สิ่
ง ได้
แก่
ข้
าวเปลื
อก ข้
าวโพด
ถั่
วเขี
ยว งา หญ้
า น้
ำ และเหล้
า เมื่
อพระโคเลื
อกสิ่
งใดก็
จะมี
คำทำนาย
จากโหรหลวง
๑. ข้
าวเปลื
อกหรื
อข้
าวโพด พยากรณ์
ว่
า ธั
ญญาหาร (อาหาร
คื
อข้
าว) ผลาหารจะบริ
บู
รณ์
ดี
๒. ถั่
วหรื
องา พยากรณ์
ว่
า ผลาหาร ภั
กษาหาร (อาหารที่
กิ
ประจำ)จะอุ
ดมสมบู
รณ์
ดี
๓. เหล้
า พยากรณ์
ว่
า การคมนาคมจะสะดวกขึ้
น การค้
าขาย
กั
บต่
างประเทศจะดี
ขึ้
น เศรษฐกิ
จรุ่
งเรื
อง
๔. น้
ำหรื
อหญ้
า พยากรณ์
ว่
า น้
ำท่
าจะบริ
บู
รณ์
พอสมควร
ธั
ญญาหาร ผลาหาร ภั
กษาหาร มั
งสาหาร อุ
ดมสมบู
รณ์
ดี
ปั
จจุ
บั
นนี้
เทคโนโลยี
ก้
าวหน้
าขึ้
นทุ
กวั
น ๆ คนส่
วนใหญ่
อาจละเลย
พิ
ธี
กรรมที่
สำคั
ญ ๆ ที่
มี
มาแต่
สมั
ยโบราณ ดั
งนั้
น เราคนไทยจึ
งควรช่
วยกั
สื
บสานและให้
กำลั
งใจเกษตรกรไทยที่
ปลู
กข้
าวให้
เราได้
รั
บประทานกั
นอยู่
ทุ
กวั
น กำลั
งใจคื
อสิ่
งสำคั
ญที่
จะทำให้
เขาได้
สู้
ต่
อไป จะผ่
านไปกี่
ยุ
กี่
สมั
ยต้
นข้
าวนั้
นก็
ยั
งสำคั
ญสำหรั
บคนไทย หากไม่
มี
เกษตรกรไทย
ต้
นข้
าวก็
คงเกิ
ดขึ้
นเองมิ
ได้