Page 50 - july52

วารสารวัฒนธรรมไทย
48
มื่อวันที่ ๘-๑๑ มิ.ย. ๕๒ ที่ ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการ
วัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ ให้องค์กรเครือข่าย
ทางวัฒนธรรมร่วมเป็ นพลังแผ่นดิ นต้านทุจริ ตคอร์รัปชั่ น
พร้อมกั บอบรมให้ความรู้ แก่ ข้าราชการ พนั กงานราชการ
และลู กจ้างของ สวช. ในเรื่องของ พ.ร.บ. ข้ อมูลข่ าวสารของ
ทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ (มาตรา ๙) เพื่อสนองนโยบายของรั ฐบาลที่ต้องการ
ให้หน่วยงานของรัฐ นำแนวทางและมาตรการตามยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต ไปใช้เป็นกรอบทิศทางการประสานความร่วมมือในการ
ดำเนินการป้องกั นและปราบปรามการทุจริต
สำหรับการจัดกิจกรรมฯ ได้มีการบรรยายในเรื่อง “พ.ร.บ. ข้อมู ล
ข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๙” และเรื่ อง “การป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต” โดยวิทยากรจากสำนั กงานคณะกรรมการข้อมู ลข่าวสาร
ของราชการและสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งสามารถ
สรุปได้ว่า พ.ร.บ. ข้อมูลข่ าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้กำหนดหน้าที่ให้หน่วย
งานของรัฐต้องดำเนินการเพื่อเปิดเผยข้อมูลข่ าวสารแก่ประชาชน คือ การนำข้อมูล
ข่าวสารตามมาตรา ๙ ของราชการไว้ ในศูนย์ข้ อมูลข่าวสาร เพื่อให้ ประชาชน
เข้าตรวจดูได้
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉบั บนี้ คื อ ในระบอบ
ประชาธิปไตย การให้ประชาชนมีโอกาสกว้ างขวางในการได้รั บข้อมูลข่าวสาร
เกี่ยวกับการดำเนิ นการต่าง ๆ ของรัฐเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่ประชาชนจะสามารถ
แสดงความคิดเห็ นและใช้ สิ ทธิทางการเมื องได้ โดยถูกต้ องกับความเป็ นจริง
เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคงและจะยังผลให้ ประชาชนมีโอกาสรู้ถึ ง
สิทธิหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะปกปั กรักษาประโยชน์ ของตนได้อีกประการ
หนึ่งด้วย โดยหน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ ให้ประชาชน
เข้าตรวจดู ได้ ณ ที่ ทำการของหน่วยงานของรัฐโดยเรียกสถานที่ จัดเก็บรวบรวม
ข้อมูลข่าวสารว่ า ศูนย์ข้อมู ลข่าวสาร เพื่อให้ ประชาชนสามารถค้นหาข้อมูลข่ าวสาร
ของราชการได้เอง ซึ่ งบุคคลทุกคนไม่ ว่าจะมีส่ วนเกี่ยวข้องหรือส่วนได้ส่ วนเสียหรือ
ไม่ก็ ตาม ย่อมมีสิ ทธิขอตรวจดูข้อมูลข่าวสาร ขอสำเนาหรือสำเนาที่มีคำรับรอง
ถูกต้องได้ ดังนั้นการที่ ผู้บริหารและเจ้ าหน้าที่ในหน่วยงานต่ าง ๆ ของรัฐมีความรู้
ความเข้าใจ และถือปฏิบัติตามที่ กฎหมายบัญญั ติไว้ก็ จะเป็นการส่งเสริมให้ การ
ดำเนินการต่าง ๆ ของภาครัฐมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และลดปัญหา
การคอร์รัปชั่น ซึ่งจะนำไปสู่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้ น
เ
สวช.
จัดกิจกรรมรณรงค์ต้านทุจริตคอร์รัปชั่น
สิริวิภา....เรื่อง
ต่อมาเป็นการบรรยายเรื่อง “การป้องกันและปราบปรามการทุจริ ต”
ซึ่งได้กล่าวถึงเรื่องของหลักธรรมาภิบาลที่เจ้ าหน้าที่ของรัฐต้องพึงมีสำหรับการสร้าง
ระบบบริ หารกิ จการบ้านเมืองและสังคมที่ ดี และเป็ นหนทางหนึ่ งในการขจัด
การทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งประกอบด้วย หลักนิติธรรม คือ การดำเนิ นการตาม
กฎข้อบั งคับโดยไม่เลือกปฏิ บัติ หลักคุ ณธรรม คือ การซื่อสัตย์สุ จริตรับผิดชอบต่อ
หน้าที่ หลักความโปร่งใส คือ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้วยวิ ธีการที่เหมาะสม
หลักการมีส่ วนร่ วม คือ การเปิ ดโอกาสให้ ประชาชนได้เข้ ามามีส่ วนร่วมคิ ด
เสนอและตัดสินใจ หลักความรับผิดชอบ คือ มีความกล้าในการยอมรั บผลการกระทำ
หลักความคุ้มค่ า คือ การมี ประสิ ทธิภาพในการบริหารงาน ดั งนั้นข้ าราชการ
พนักงาน ลูกจ้ างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รั ฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่อื่ น
ของรัฐ จะต้ องมีหน้ าที่ ดำเนินการให้ เป็นไปตามกฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์
ส่วนรวม อำนวยความสะดวกและให้ บริการแก่ประชาชนตามหลั กธรรมาภิบาล
ของการบริหารกิจการบ้านเมื องที่ดี
จากนั้นคณะผู้บริ หาร ข้าราชการ และพนักงานราชการ สวช. ได้เดินทาง
ไปร่วมกิจกรรมเพื่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นกับเยาวชนในพื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยร่วมกับเด็ กนักเรี ยนโรงเรียนไตรกิตทัตตานนท์ ทำกิจกรรมเพื่อสร้างจิ ตสำนึก
ให้มี ความซื่อสั ตย์ สุจริ ต อาทิ การให้ เขียนบันทึ กความดี การวาดรูประบายสี
และปิดท้ายด้ วยการแข่งขันฟุ ตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างคณะ สวช. กั บนักเรียน
โรงเรียนไตรกิตทัตตานนท์ นอกจากนี้ คณะ สวช. ยั งได้นำอุปกรณ์การเรียนการสอน
และอุปกรณ์กีฬาไปมอบให้แก่เด็กนักเรียนด้วย
เมื่อเสร็จสิ้ นจากการทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ ในพื้นที่แล้ว คณะ สวช.
ก็ได้เดินทางไปทำกิจกรรมพัฒนาศาสนสถาน ณ วัดถ้ำเขาคีรีวงศ์ จังหวั ดประจวบคีรีขันธ์
โดยร่วมกั นทำความสะอาดบริเวณภายในและบริเวณโดยรอบของวัด ซึ่งเป็ นหนึ่ง
ในกิจกรรมฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์สร้างจิ ตสำนึกที่ดีงาม
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มุ่งหวังเป็ นอย่ างยิ่งว่ า
กิจกรรมรณรงค์ ให้องค์กรเครือข่ายทางวัฒนธรรมร่วมเป็ นพลังแผ่ นดินต้านทุจริต
คอร์รัปชั่นนั้น จะสร้างจิตสำนึกให้ เกิดขึ้นแก่เจ้ าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ
วัฒนธรรมแห่งชาติ และประชาชนทั่วไป เพื่อก่ อให้เกิ ดความร่วมมื อ
ร่วมใจที่จะป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง พร้อมทั้งมุ่ งหวัง
ให้มี การนำหลั กธรรมาภิ บาลมาใช้ในการทำงาน เพื่ อการให้ บริการ
แก่ประชาชนด้ วยความเต็มใจและเป็นธรรมต่อไป