วารสารวั
ฒนธรรมไทย
จารึ
กวั
ดพระเชตุ
พนฯ
มี
คุ
ณสมบั
ติ
ครบถ้
วนตามหลั
กเกณฑ์
การคั
ดเลื
อกเอกสารที่
มี
คุ
ณค่
า
เพราะเป็
นการรวบรวมหลั
กฐาน
ลายลั
กษณ์
อั
กษรที่
มี
คุ
ณค่
า
ต่
อมนุ
ษยชาติ
คงความ
เป็
นเอกและมี
ความโดดเด่
น
ทั้
งในด้
านเวลา เนื้
อหาสาระ
สถานที่
บุ
คคล ฯลฯ อี
กทั้
งยั
งมี
ความหายาก ความสมบู
รณ์
แ ล ะ เ ป็
น ข อ ง แ ท้
ที่
มี
ม า แ ต่
โบราณซึ่
งล้
วนเป็
นภู
มิ
ปั
ญญา
ไทยที่
บรรพบุ
รุ
ษได้
สร้
างสรรค์
สรรพวิ
ทยาความรู้
ต่
าง ๆ ไว้
เพื่
อเป็
นมรดกความทรงจำ
อั
นล้
ำค่
าให้
แก่
ลู
กหลานและ
แผ่
นดิ
นไทยสื
บมาจนทุ
กวั
นนี้
การได้
รั
บการประกาศ
ยกย่
องในครั้
งนี้
ก็
คงเป็
น
อี
กครั้
งหนึ่
งที่
องค์
กรภายนอก เป็
นผู้
กระตุ
กเตื
อนให้
คนไทย
หั
นกลั
บมาทบทวน เรี
ยนรู้
คุ
ณค่
าของมรดกบรรพบุ
รุ
ษที่
สร้
างสม
ั
ไว้
ให้
กั
บลู
กหลาน แต่
ลู
กหลาน
หลายคนลื
มเลื
อนหรื
ออาจก็
ไม่
เคยรู้
เลยว่
าศาสตร์
และศิ
ลปะ
หลายต่
อหลายประการที่
ได้
นำ
มาใช้
ในการศึ
กษาเล่
าเรี
ยน
แล ะ ก า ร ใ ช้
ชี
วิ
ตปร ะ จ ำ วั
น
ทุ
กวั
นนี้
ได้
รั
บการจดจารึ
ก
บั
นทึ
กไว้
ในวั
ดโพธิ์
เมื่
อ
๒๐๐ กว่
าปี
มาแล้
ว ด้
วยความ
ปรารถนาดี
ของบรรพบุ
รุ
ษ
ที่
เก็
บบั
นทึ
กความรู้
นี้
ไว้
ให้
คนรุ่
นต่
อไป ได้
อ่
าน ได้
เรี
ยน
ไ ด้
คั
ด ล อ ก น ำ ไ ป คิ
ด แ ล ะ
ประยุ
กต์
ต่
อจนเป็
นสรรพวิ
ชา
สาขาใหม่
ๆ อี
กมากมาย
และทำให้
ชวนคิ
ดอี
กว่
าหาก
คนไทยไม่
มี
ภาษาและตั
วอั
กษร
ที่
เป็
นของตนเองแล้
ว มาถึ
ง
วั
นนี้
คนไทยจะเหลื
อสิ่
งใดที่
ให้
โลกเห็
นว่
าคนไทยที่
กล่
าวกั
นว่
าเป็
นชาติ
ที่
มี
ประวั
ติ
ศาสตร์
ยาวนาน มี
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมอั
นเก่
าแก่
นั้
นในปั
จจุ
บั
นมี
เอกลั
กษณ์
โดดเด่
นแตกต่
างจากคนชาติ
อื่
นอย่
างไร