วารสารวั
ฒนธรรมไทย
29
สาระสำคั
ญในการดำเนิ
นโครงการฯ นั้
นมี
ดั
งนี้
โดยใน
ช่
วงแรก
จะมี
การกล่
าวคำปฏิ
ญาณตนเพื่
อปฏิ
บั
ติ
ตามคุ
ณธรรม
๑๐ ประการ ซึ่
งประธานในพิ
ธี
จะเป็
นผู้
นำจุ
ดเที
ยน
“หลั
กธรรมตาม
รอยพระยุ
คลบาท”
โดยให้
ผู้
เข้
าร่
วมประชุ
มทุ
กคนน้
อมนำแบบอย่
าง
ที่
ดี
ในจริ
ยวั
ตรทุ
กด้
านของพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วและในโอกาส
เดี
ยวกั
นนี้
ได้
เรี
ยนเชิ
ญผู้
นำผู้
อาวุ
โสในพื้
นที่
จำนวน ๑๐ คน ขึ้
นมาร่
วม
จุ
ดเที
ยนที่
ประดั
บไว้
จำนวน ๑๐ ต้
นตามรอยพระยุ
คลบาท
๑๐ ประการ ซึ่
งเป็
นหลั
กธรรมที่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วทรงถื
อ
ปฏิ
บั
ติ
มาตลอดระยะเวลา ๖๓ ปี
แห่
งการครองราชย์
ที่
แสดงให้
เห็
น
แนวทางการครองตน ครองคน ครองงาน และการอยู่
ร่
วมกั
นอย่
างมี
วั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตย ดั
งนี้
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๑ หมายถึ
ง ทำงานอย่
างผู้
รู้
จริ
งและมี
ผลงาน
เป็
นที่
ประจั
กษ์
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๒ หมายถึ
ง มี
ความอดทน มุ่
งมั่
นยึ
ดธรรมะ
และความถู
กต้
อง
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๓ หมายถึ
ง ความอ่
อนน้
อมถ่
อมตนเรี
ยบง่
าย
และประหยั
ด
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๔ หมายถึ
ง มุ่
งประโยชน์
คนส่
วนใหญ่
เป็
นหลั
ก
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๕ หมายถึ
ง รั
บฟั
งความคิ
ดเห็
นของผู้
อื่
นและ
เคารพความคิ
ดที่
แตกต่
าง
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๖ หมายถึ
ง มี
ความตั้
งใจจริ
งและขยั
น
หมั่
นเพี
ยร
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๗ หมายถึ
ง มี
ความสุ
จริ
ตและความกตั
ญญู
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๘ หมายถึ
ง พึ่
งตนเอง ส่
งเสริ
มคนดี
และ
คนเก่
ง
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๙ หมายถึ
ง รั
กผู้
อื่
น
จุ
ดเที
ยนต้
นที่
๑๐ หมายถึ
ง การเอื้
อเฟื้
อซึ่
งกั
นและกั
น
และรั
ฐมนตรี
ว่
าการกระทรวงวั
ฒนธรรมจะนำประชาชนที่
เข้
าร่
วมโครงการฯ กล่
าวคำปฏิ
ญาณจะปฏิ
บั
ติ
ตนตามรอยเบื้
องพระยุ
คลบาท
และร่
วมร้
องเพลงสดุ
ดี
มหาราชา
ช่
วงที่
๒
กิ
จกรรมการบรรยาย “การเสริ
มสร้
างวั
ฒนธรรม
ประชาธิ
ปไตยในสั
งคมไทย” โดย รั
ฐมนตรี
ว่
าการกระทรวงวั
ฒนธรรม
(นายธี
ระ สลั
กเพชร) ซึ่
งประเด็
นสำคั
ญของการบรรยายนั้
นได้
เน้
นถึ
ง
ความสำคั
ญของวั
ฒนธรรมที่
เป็
นทุ
นทางสั
งคมของท้
องถิ่
น เป็
นมรดก
ทางธรรมชาติ
จำเป็
นต้
องได้
รั
บการสื
บทอด ตลอดจนแนวประพฤติ
ปฏิ
บั
ติ
ในการดำเนิ
นชี
วิ
ตของคนในสั
งคมปั
จจุ
บั
นเริ่
มเปลี่
ยนแปลง
ไปจากเดิ
ม กล่
าวคื
อคุ
ณธรรมจริ
ยธรรมของสั
งคมไทยหายไป ฉะนั้
น
สิ่
งที่
สำคั
ญที่
จะต้
องพั
ฒนานั้
นต้
องยึ
ดคนเป็
นตั
วตั้
ง การพั
ฒนาคนต้
อง
พั
ฒนาที่
จิ
ตใจก่
อน โดยกระทรวงวั
ฒนธรรมมี
หน้
าที่
สร้
างสั
งคม ทำให้
คนในสั
งคมเป็
นคนที่
มี
คุ
ณธรรมจริ
ยธรรมส่
งเสริ
มคนดี
มี
ศิ
ลปะในการ
ตามลำดั
บ
โดยแนวความคิ
ดและแนวทางการดำเนิ
นงานหลั
กตาม
โครงการฯ มี
วิ
ธี
ดำเนิ
นการดั
งนี้
๑. ใช้
พื้
นที่
โครงการวั
ฒนธรรมไทยสายใยชุ
มชนที่
สำนั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
ได้
มี
การดำเนิ
นโครงการ
มาตั้
งแต่
ปี
๒๕๓๗ และขยายพื้
นที่
การดำเนิ
นโครงการฯ จนในปั
จจุ
บั
น
มี
การจั
ดตั้
งโครงการฯ ในทุ
กพื้
นที่
ทั่
วประเทศแล้
ว จำนวนทั้
งสิ้
น
๑,๑๘๔ แห่
ง (ข้
อมู
ล ณ วั
นที่
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒) เป็
นเวที
การ
เรี
ยนรู้
วั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตยแก่
นั
กเรี
ยน นั
กศึ
กษา และประชาชน
ทั่
วประเทศ
๒. เสริ
มสร้
างความรู้
แก่
ผู้
นำศาสนาทุ
กศาสนา เพื่
อ
เผยแพร่
วั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตยในพื้
นที่
๓. บู
รณาการหลั
กสู
ตรร่
วมกั
บกระทรวงศึ
กษาธิ
การ เพื่
อ
เพิ่
มความเข้
มข้
นในการจั
ดกระบวนการเรี
ยนการสอน และจั
ดกิ
จกรรม
เสริ
มสร้
างความรู้
ความเข้
าใจ ทั
กษะและประสบการณ์
เกี่
ยวกั
บ
วั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตย แก่
นั
กเรี
ยน นั
กศึ
กษาในทุ
กระดั
บชั้
น
๔. ระดมความร่
วมมื
อจากทุ
กภาคส่
วน โดยเฉพาะอย่
างยิ่
ง
สภาวั
ฒนธรรมตำบล/หมู่
บ้
าน ที่
เป็
นกลไกสำคั
ญในระดั
บท้
องถิ่
น
ให้
ร่
วมขั
บเคลื่
อนการดำเนิ
นงานเสริ
มสร้
างวั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตย
โดยวั
ตถุ
ประสงค์
หลั
กของการดำเนิ
นงานที่
สำนั
กงานฯ
ร่
วมกั
บสำนั
กงานวั
ฒนธรรมจั
งหวั
ดในพื้
นที่
นำร่
อง ดำเนิ
นการจั
ด
“โครงการเสริ
มสร้
างวั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตย”
มุ่
งเน้
น การปลู
กฝั
ง
แนวคิ
ดการดำเนิ
นงานตามรอยพระยุ
คลบาทให้
กั
บประชาชนในพื้
นที่
และสร้
างกลไกการแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
สร้
างภู
มิ
คุ้
มกั
นทางวั
ฒนธรรม
เพื่
อบรรเทาและแก้
ไขปั
ญหาต่
าง ๆ ในสั
งคมนำมาซึ่
งความปรองดอง
สมานฉั
นท์
และสามารถสร้
างความเข้
มแข็
ง มั่
นคงอย่
างเหมาะสมกั
บ
ตนเอง เกิ
ดแนวการพั
ฒนาตนเองและชุ
มชนที่
ยั่
งยื
นต่
อไป การดำเนิ
น
โครงการฯ ในแต่
ละพื้
นที่
มี
ประชาชนในพื้
นที่
เข้
าร่
วมโครงการจำนวน
จั
งหวั
ดละประมาณ ๑,๐๐๐ คน ประกอบไปด้
วย ผู้
นำจาก ๔ เสาหลั
ก คื
อ
๑) ผู้
นำท้
องถิ่
น หรื
อผู้
บริ
หารท้
องถิ่
น ได้
แก่
องค์
การ
บริ
หารส่
วนตำบล (อบต.) เทศบาล
๒) ผู้
นำท้
องที่
หรื
อผู้
ปกครองท้
องที่
ได้
แก่
กำนั
น ผู้
ใหญ่
บ้
าน อสม.
๓) ผู้
นำศาสนา ได้
แก่
เจ้
าอาวาส โต๊
ะอิ
หม่
าม ผู้
ทรง
คุ
ณธรรม ผู้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
๔) ผู้
นำธรรมชาติ
ได้
แก่
ปราชญ์
ชาวบ้
าน ภู
มิ
ปั
ญญา
ท้
องถิ่
น ผู้
อาวุ
โส
นอกจากผู้
นำ ๔ เสาหลั
กแล้
ว ผู้
เข้
าร่
วมประชุ
มยั
งประกอบ
ไปด้
วยอาสาสมั
ครวั
ฒนธรรมในชุ
มชนจากเยาวชน สตรี
กรรมการ
หมู่
บ้
าน สภาวั
ฒนธรรมตำบล สภาวั
ฒนธรรมอำเภอ สภาวั
ฒนธรรม
จั
งหวั
ด คณะกรรมการสภาวั
ฒนธรรมในทุ
กระดั
บ คณะกรรมการ
โครงการวั
ฒนธรรมไทยสายใยชุ
มชน ฯลฯ