Page 85 - Culture2-2016
P. 85
มหาเปรื่องและครอบครัวอันอบอุ่น ในงานวันรับปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตของนายนรินทร์ ศิริภัทร์ บุตรชายคนโต
๑๕ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๑ ครอบครวั “มหดิ ล” จึงได้เดินทางตามเสด็จสู่กรุงโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ในฐานะ
อันประกอบด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พา พระอาจารย์
พระโอรสธดิาเสดจ็นวิัตประเทศไทยเป็นครงั้แรกโดยประทับที่ มหาเปรอ่ืงเกดิเม่อืวันเสาร์ที่๑๘พฤษภาคม๒๕๔๔ที่
พระตา หนักจติ รลดารโหฐาน เป็นเวลา ๑ เดือนเศษ
ตาบลเตาปูนอาเภอแก่งคอยจงัหวัดสระบุรีมพี่ีน้องร่วมพ่อแม่
สมเดจ็พระศรนีครนิทราฯทรงดารวิ่าดว้ยเหตทุพี่ระโอรส เดยีวกัน๓คนพ่ชีายคนโตต่อมาได้บวชเรยีนและเจรญิในทาง
และพระธดิ ายงั ทรงพระเยาว์ และยงั ต้องศกึ ษาศลิ ปวทิ ยาการที่ ธรรม เป็นพระมหาโพธวิ งศาจารย์ เจ้าอาวาสวดั อนงคาราม
ตา่ งประเทศนา่ จะไดเ้รยี นรภู้ าษาไทยและขนบธรรมเนยี มไทยอนั เปน็ เมอื่ อายุ ๖ ขวบ พอ่ แมไ่ ดส้ ง่ เดก็ ชายเปรอ่ื งมาอยกู่ รงุ เทพฯ
รากเหง้าวัฒนธรรมของชาติ รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม
กับพระพ่ีชาย หลังจากได้รับการศึกษาช้ันต้นที่โรงเรียนประถม
ซึง่เป็นรฐับาลในขณะน้นัจึงได้จัดหาพระอาจารย์ถวาย
วดัอนงคารามอยสู่องปีกไ็ดเ้ขา้เรยีนตอ่ทโี่รงเรยีนมธัยมสขุมุาลยั
เปรอ่ืงศริภิทัร์หรือ“มหาเปรอื่ง”อดีตภิกษุเปรียญ อยู่๓ปีจนสอบได้ชัน้มัธยมปีท่ี๓จากนนั้ในวัย๑๒ปีจึงได้
๖ ประโยค จากสานักวัดอนงคาราม ท่ีขณะน้ันรับราชการ บรรพชาเปน็ สามเณร ณ วดั อนงคาราม เมอื่ อายคุ รบ ๒๐ ปบี รบิ รู ณ์
อยู่ที่สานักงานโฆษณาการ (ปัจจุบันคือกรมประชาสัมพันธ์) จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์
เป็นผู้ท่ีรัฐบาลเห็นว่ามีคุณสมบัติอันเหมาะสม มหาเปร่ือง
(นวม พุทธสรมหาเถระ) เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์
83
เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙