Page 63 - Culture2-2016
P. 63
นับแต่อดีต บรรพบุรุษเราได้เสาะหาและสะสมภูมิรู้
ที่จะฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของผู้เป็นแม่ให้พร้อมสาหรับการ
เล้ียงลูก จนค้นพบกระบวนการท่ีเรียกว่า “อยไู่ ฟ” การอยู่ไฟ
เป็นวิถีปฏิบัติท่ีมีกันทุกชุมชนท่ัวทุกภาคของประเทศ อาจมี
รายละเอียดแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถ่ิน แต่โดยรวมมี
หลักการเดียวกนั คือการใช้ความร้อนจากไฟเป็นยาช่วยขับไล่
ของเสียออกจากร่างกาย กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี ลดความ
ปวดเนือ้ปวดตัวช่วยรักษาแผลทช่ี่องคลอดหรือพดูแบบภาษา
บ้านๆ ว่า ขับน้าคาวปลา ทาให้มดลูกแห้งและเข้าอู่เร็วขึ้น
โดยนาความรู้เรอ่ื งสมุนไพรในท้องถิน่ นนั้ ๆ มาใช้ร่วมด้วย
การนําาเกลอืสมุทรใส่หม้อดินเผาตัง้ไฟใหร้้อน
ทางอสี านเรยี กการอย่ไู ฟว่า “ยเู่ ดอื น” หรอื “อยกู่ รรม”
หรือ “หมอ้ กรรม” “หมอ้ เวร” ส่วนภาษาล้านนาว่า “อยกู่ า๋ ”
หรอื “กา๋ อย”ู่ ควบคไู่ ปกบั คา วา่ “กา๋ กนิ ” หมายถงึ ขอ้ ปฏบิ ตั ติ วั
ในการอยแู่ ละการกนิ ของแมห่ ลงั คลอด ซงึ่ เรยี กวา่ “แมก่ า๋ เดอื น” ปัจจุบันความเคร่งครัดต่างๆ ได้ลดลงไปมาก เช่น การ
เหตทุ เี่ รยี ก กา๋ หรอื กรรม เพราะมองวา่ ผหู้ ญงิ หลงั การคลอดลกู ตอ้ ง เข้าออกบริเวณอยู่ไฟทาได้ตามสะดวก การแต่งตัวอาจเป็น
กนิ รอ้ นอาบร้อนนอนร้อนเหมอื นคนมกี รรมต้องอดทนอดกลน้ั ผ้าถุงตัวเดียวนุ่งกระโจมอกหรือนุ่งแค่ถึงเอว ขณะที่บางคน
อยู่เป็นเดอืนอีกท้งัสมยัก่อนมีข้อห้ามเคร่งครัดมากเช่นไม่ใส่ สวมเสอ้ืแขนยาวนงุ่หม่มดิชดิเพราะเชอ่ืวา่จะชว่ยเกบ็ความรอ้น
เสอ้ื ผา้ ปดิ เฉพาะอวยั วะเพศเพอื่ ตอ้ งการใหร้ า่ งกายถกู ความรอ้ น ได้ดี ส่วนข้อห้ามเรื่องอาหารการกินก็น้อยลงเพราะมีความรู้
อย่างทวั่ถงึห้องหับท่ีอยู่ไฟจึงมักปิดทึบเป็นส่วนตัวและป้องกัน ทางโภชนาการมากขึ้นแม้ว่าหลายเรื่องจะถูกปรับประยุกต์
ไม่ให้ความเย็นหรอืลมเข้ามากระทบตัวแม่ได้ห้ามแม่ออกนอก ไปมากแล้วแต่ยังคงเชื่อมั่นว่าการอยู่ไฟน้ันสาคัญและจาเป็น
บรเิ วณทอ่ี ยไู่ ฟ ยกเวน้ เวลาเขา้ หอ้ งนา้ หรอื ใหน้ มลกู เทา่ นนั้ บางที่ หากแมไ่ มไ่ ดอ้ ยไู่ ฟ ตอ่ ไปจะทา งานหนกั ไมค่ อ่ ยได้ ปวดเมอื่ ยงา่ ย
หรือมักมีอาการหนาวสะท้านเมื่อถูกลมฝนหรืออากาศเย็น
นาเดก็เขา้มาอยกู่บัแมเ่ลยกม็ีขณะทคี่นเหนอืหา้มนอนราบกบัพนื้
แม่ก๋าเดือนต้องอยู่ในท่า “นอนเซงิ่ ” หรือกึ่งน่ังกึ่งนอนตลอด ซึ่งบางคนจะเป็นทันที ขณะที่บางคนจะมีอาการเมื่ออายุ
เพอ่ืให้นา้คาวปลาทคี่้างอยู่ไหลออกสะดวก
มากขึ้น
กระบวนการอยู่ไฟ
นอกจากนเี้ รอื่ งอาหารการกนิ กม็ ขี อ้ หา้ มเชน่ กนั สมยั กอ่ น สมัยก่อนต้องเตรียมการกัน
ระหว่างอยู่ไฟจะให้กินแต่อาหารแห้ง เช่น ข้าวกับปลาแห้ง ล่วงหน้าเป็นเดือนๆ มักกาหนดให้สามีต้องเป็นผู้เตรียมการ
ในรายที่เคร่งครัดมากช่วงครึ่งเดือนแรกกินได้แต่ข้าวกับเกลือ ต่างๆ ตั้งแต่เตรียมสถานที่ ปัดกวาดทา ความสะอาด เตรียม
ก็มี บางทีทาเป็นข้าวจ่ี (ข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนเสียบไม้จ่ีไฟ) เตาไฟ จดั หาไมก้ ระดานมาทา “แมส่ ะแนน” คอื เตยี งทจี่ ะใหแ้ ม่
ห้ามของคาวแทบทุกชนิด เนื้อสัตว์ อาหารรสเย็น เช่น ผักสด นอนอยู่ไฟ บางที่ใช้แคร่ไม้ไผ่ แม่สะแนนจะใช้ไม้กว้างแค่พอดี
เพราะจะทาให้ท้องอืด ผักกลิ่นฉุนอย่างชะอมถือว่า ขะลา ตัวเพ่ือให้แม่ขยับตัวหนีไฟได้ยาก แล้วยังต้องออกไปหาฟืน
(ต้องห้าม) มาก ของหมกั ดองกห็ า้ มเพราะจะทา ให้เลอื ดลมตขี นึ้ และสมุนไพรที่จาเป็น น้ากินน้าใช้ก็ต้องตักใส่ตุ่มเตรียมให้พอ
คติโบราณจึงถือว่าการอยู่กรรมเป็นช่วงเวลาที่ลูกผู้หญิงได้รับรู้ ฯลฯ นับเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่ทาให้สามีมีส่วนร่วม
ความเจบ็ ปวดทรมานของแมใ่ นการคลอดลกู และความลาบาก ในความทกุ ขย์ าก และไดเ้ อาใจใสภ่ รรยา ชว่ ยคลายความเหนอ่ื ยลา้
ทแ่ี มต่ อ้ งอดตอ้ งทนเพอื่ ลกู เชน่ เดยี วกบั ลกู ผชู้ ายทเี่ วลาบวชแลว้ และความวิตกกังวล เมื่อแม่มีสุขภาพดีท้ังกายและใจก็จะมี
ต้องได้รับรู้ความทกุข์ของแม่
น้านมให้ลูกมาก
61
เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙