Page 6 - fab53

Basic HTML Version

“ผู้
มี
ความสามารถแสดงออกซึ่
งคุ
ณสมบั
ติ
ทาง
ศิ
ลปะและมี
ผลงานเป็
นที่
ยอมรั
บของสั
งคม”
ความหมายของ
ความเป็
นศิ
ลปิ
นอาจเป็
นดั
งที่
กล่
าวมาข้
างต้
นตามพจนานุ
กรมฉบั
ราชบั
ณฑิ
ตยสถาน แต่
คำ
�จำ
�กั
ดความเพี
ยงเท่
านี้
ไม่
สามารถที่
จะ
แสดงคุ
ณค่
าของความเป็
นศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
ซึ่
งล้ำ
�ลึ
กและมี
คุ
ณค่
กว่
ามากมายได้
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
ผู้
เป็
นดั่
งปราชญ์
แห่
งศิ
ลปะ โดย
งานศิ
ลปะที่
ท่
านรั
งสรรค์
ขึ้
นนั้
นเป็
นประตู
เปิ
ดไปสู่
“ปั
ญญา” ให้
แก่
ผู้
เสพย์
งานศิ
ลป์
นั้
นๆ และยั
งเป็
นผู้
สร้
างแรงบั
นดาลใจให้
กั
เหล่
าศิ
ลปิ
นรุ่
นน้
องได้
ก้
าวเดิ
นไปสู่
การสร้
างงานศิ
ลปะให้
เปี่
ยมไป
ด้
วยความเพี
ยรพยายาม โดยมิ
ท้
อถอยต่
ออุ
ปสรรคที่
ถาโถมเข้
มา เส้
นทางสายศิ
ลปะของศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช
๒๕๕๒ ทั้
ง ๙ ท่
าน จึ
งเต็
มเปี่
ยมไปด้
วยเรื่
องราวที่
เป็
นแบบอย่
าง
ควรค่
าแก่
การศึ
กษาเรี
ยนรู้
ศาสตราจารย์
ปรี
ชา เถาทอง
จ บก า ร ศึ
กษ า ป ริ
ญญา ศิ
ลป ะ
บั
ณฑิ
ต เกี
ยรติ
นิ
ยมอั
นดั
บ ๒ (จิ
ตรกรรม)
จากมหาวิ
ทยาลั
ยศิ
ลปากร และปริ
ญญา
ศิ
ลปะมหาบั
ณฑิ
ต ( จิ
ตรกรรม) จาก
มหาวิ
ทยาลั
ยศิ
ลปากร ได้
รั
บทุ
นไปศึ
กษา
ที่
L’ Academia di bel le Arte ณ
กรุ
งโรม ประเทศอิ
ตาลี
เริ่
มรั
บราชการ
ในตำ
�แหน่
งอาจารย์
โท คณะจิ
ตรกรรม
ประติ
มากรรม และภาพพิ
มพ์
มหาวิ
ทยาลั
ยศิ
ลปากร เกษี
ยณอายุ
ใน
ตำ
�แหน่
งศาสตราจารย์
ระดั
บ ๙ คณะจิ
ตรกรรม ประติ
มากรรม และ
ภาพพิ
มพ์
มหาวิ
ทยาลั
ยศิ
ลปากร
ศาสตราจารย์
ปรี
ชา เถาทอง
เป็
นศิ
ลปิ
นที่
มี
แนวคิ
ที่
ทั
นสมั
ย สามารถสร้
างสรรค์
ผลงานให้
เกิ
ดดุ
ลยภาพระหว่
างการ
อนุ
รั
กษ์
กั
บการพั
ฒนาศิ
ลปะให้
เป็
นแนวทางสร้
างสรรค์
ศิ
ลปกรรม
ไทยร่
วมสมั
ยอย่
างมี
เอกลั
กษณ์
ทั้
งทำ
�หน้
าที่
เป็
นอาจารย์
สอนศิ
ลปะและผู้
สร้
างสรรค์
ผลงานศิ
ลปะ ตลอดระยะเวลา
๓๙ ปี
ได้
สร้
างสรรค์
ผลงานศิ
ลปะที่
มี
เอกลั
กษณ์
เป็
นของตนเอง
มี
แสงเงา หรื
อสี
ทองเป็
นส่
วนประกอบ ต่
อมาใช้
วั
ตถุ
ที่
มี
ความ
แวววาวเพื่
อสื่
อความคิ
ดของความเป็
นไทย โดยใช้
เทคนิ
คแบบ
จิ
ตรกรรมแบบไทยประเพณี
มาผสมผสานกั
บเทคนิ
คแบบศิ
ลปะ
ตะวั
นตก วิ
ธี
การในการแสดงออก สะท้
อนถึ
งสาระทางพุ
ทธปรั
ชญา
เพื่
อชี้
นำ
�สั
งคมและพั
ฒนาสั
งคม และแสดงแนวคิ
ดถึ
งความเป็
ไทย ความศรั
ทธา ความสงบนิ่
ง ความศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ในทางศาสนา
จนเป็
นที
ประจั
กษ์
ของวงการศิ
ลปะ ศาสตราจารย์
ปรี
ชา เถาทอง
ได้
ค้
นคว้
าทฤษฎี
แสงและเงาและสร้
างสรรค์
เป็
นผลงานชุ
ดที่
ชื่
อว่
รู
ปทรงของแสงบนเนื้
อที่
ของเงา
เป็
นผลงานที่
สร้
าง
ชื่
อเสี
ยงสู
งสุ
ด จนได้
รั
บรางวั
ลเกี
ยรติ
นิ
ยมอั
นดั
บ ๑ เหรี
ยญทอง
จากการแสดงศิ
ลปกรรมแห่
งชาติ
ครั้
งที่
๒๕ ประจำ
�ปี
พ.ศ.๒๕๒๒
เป็
นรางวั
ลสำ
�คั
ญที่
ทำ
�ให้
ได้
รั
บการยกย่
องให้
เป็
นศิ
ลปิ
นชั้
นเยี่
ยม
สาขาจิ
ตรกรรม คนที่
๑๔ (จากการที่
ได้
รั
บรางวั
ลเกี
ยรติ
นิ
ยม
อั
นดั
บ ๑ เหรี
ยญทองครบ ๓ เหรี
ยญ และอี
ก ๑ เหรี
ยญเงิ
น)
ในปี
นั้
นเอง
ศ า สต ร า จ า ร ย์
ป รี
ช า เ ถ า ทอ ง
นั
บ ว่
า เ ป็
อาจารย์
สอนศิ
ลปะร่
วมสมั
ยที่
มี
คุ
ณู
ปการต่
อวงการศึ
กษา
ศิ
ลปะ และเป็
นแรงบั
นดาลใจให้
เป็
นแบบอย่
างแก่
อนุ
ชน
รุ่
นหลั
นายองอาจ สาตรพั
นธุ์
จบการศึ
กษาจาก Cornell Uni-
versity, Ithaca, N.Y., U.S.A. และ Yale
University, New Haven, CT., U.S.A. เริ่
ทำ
�งานกั
บบริ
ษั
ท Glen Paulsen & As-
sociates Architects, Bloomfield Hills,
Michigan, U.S.A. และในปี
พ.ศ. ๒๕๑๒
ได้
ตั้
งสำ
�นั
กงาน “องอาจสถาปนิ
ก”
เรื่
องจากปก
กิ่
งทอง มหาพรไพศาล...เรี
ยบเรี
ยง