๕
ตั้
งครอบครั
วและแสวงหาคู่
ครอง ในปั
จจุ
บั
นประเทศไทยมี
ประชากรกลุ่
มดั
งกล่
าว ตามข้
อมู
ลของสำ
�นั
กทะเบี
ยนราษฎร์
กระทรวงมหาดไทย ณ วั
นที่
๓๑ ธั
นวาคม ๒๕๕๒ จำ
�นวน
๑๐,๒๓๔,๘๖๕ คน เป็
นชาย ๕,๒๕๗,๒๒๐ คน และเป็
น
หญิ
ง ๔,๙๗๗,๖๔๕ คน คิ
ดเป็
น ๑ ใน ๖ ของประชากรของ
ประเทศไทย
เยาวชนอยู่
ในวั
ยที่
กำ
�ลั
งเจริ
ญเติ
บโต มี
ความแข็
งแรง
กระตื
อร้
น มี
ความมุ่
งมั่
น อยู่
ในวั
ยเรี
ยนรู้
จึ
งมี
บทบาทและ
ความสำ
�คั
ญต่
อการพั
ฒนาประเทศ เพราะจะต้
องเรี
ยนรู้
ความรู้
พื้
นฐานเพื่
อเสริ
มสร้
างศั
กยภาพของตนเองให้
พร้
อม
ต่
อการเป็
นกำ
�ลั
งแรงงานสำ
�คั
ญในการสร้
างสรรค์
ความ
เจริ
ญก้
าวหน้
าของสั
งคมต่
อไป โดยเฉพาะอย่
างยิ่
ง วิ
ถี
ไทย
ที่
บรรพบุ
รุ
ษไทยได้
สร้
างสรรค์
เอาไว้
บนพื้
นฐานของสภาพ
แวดล้
อมของสั
งคมไทย สั่
งสมและสื
บสานกั
นมาอย่
าง
ยาวนาน จนเหมาะสมสอดคล้
องกั
บความเป็
นอยู่
แบบชุ
มชน
ของคนไทย ทำ
�ให้
สั
งคมไทยดำ
�เนิ
นมาได้
อย่
างมี
ความสุ
ข
จนถึ
งปั
จจุ
บั
น เพราะคนไทยจะมี
ความคุ้
นเคยต่
อวิ
ถี
ดั
งกล่
าว
ไม่
ว่
าจะเป็
นภาษาไทยที่
ใช้
สื่
อสารกั
น อาหารไทยที่
บริ
โภคอยู่
ทุ
กมื้
อ เสื้
อผ้
าเครื่
องนุ่
มห่
มที่
เหมาะกั
บสภาพภู
มิ
อากาศ รวมถึ
ง
จิ
ตใจที่
เอื้
อเฟื้
อ อ่
อนโยน สำ
�นึ
กในความเป็
นไทย สิ่
งเหล่
านี้
ล้
วนแล้
วแต่
เป็
นสิ่
งที่
มี
คุ
ณค่
าต่
อความยั่
งยื
นของสั
งคมไทย
ที่
จะบ่
งบอกให้
ชนชาติ
อื่
นได้
รู้
จั
กว่
า นี้
คื
อคนไทย
เยาวชนที่
อยู่
ในวั
ยกำ
�ลั
งเรี
ยนรู้
และเป็
นกำ
�ลั
งหลั
กที่
จะสื
บสานและเป็
นแบบอย่
างแห่
งความเป็
นไทยให้
สื
บเนื่
อง
ไปยั
งเด็
กรุ่
นหลั
ง จึ
งต้
องศึ
กษาและเข้
าใจอย่
างถ่
องแท้
ถึ
ง
วิ
ถี
ไทยที่
ได้
สะสมกั
นมายาวนาน ด้
วยความรู้
ความเข้
าใจ
และภู
มิ
ปั
ญญาของบรรพชน เยาวชนต้
องเข้
าใจว่
า วิ
ถี
ไทย
ใดๆ ที่
เห็
นอยู่
ณ เวลานี้
ได้
ผ่
านการลองถู
กลองผิ
ดมานาน
จนลงตั
วเป็
นแนวปฏิ
บั
ติ
ที่
สอดคล้
องกั
บสภาพแวดล้
อมของ
ภู
มิ
ประเทศและภู
มิ
อากาศ เยาวชนจึ
งควรรู้
ว่
า เราเป็
นใคร มา
จากไหน กว่
าจะผ่
านกาลเวลามาถึ
งปั
จจุ
บั
นได้
ต้
องเผชิ
ญกั
บสิ่
ง
ใดบ้
าง เช่
นเดี
ยวกั
นกั
บผู้
คนในสั
งคมอื่
น ก็
มี
การคิ
ดสร้
างสรรค์
วิ
ถี
ปฏิ
บั
ติ
ที่
สอดคล้
องท้
องถิ่
นของเขา เมื่
อเยาวชนได้
เรี
ยนรู้
จนเข้
าใจถึ
งภู
มิ
ปั
ญญาของบุ
คคลรุ่
นพ่
อแม่
ปู่
ย่
าตายายแล้
ว
ย่
อมมี
ความภาคภู
มิ
ใจในเอกลั
กษณ์
ของชุ
มชนของตนเอง
ประพฤติ
ตนเป็
นแบบอย่
างสำ
�หรั
บเด็
กรุ่
นน้
องให้
เรี
ยนรู้
และปฏิ
บั
ติ
ตาม
เยาวชนจึ
งต้
องเข้
าไปเรี
ยนรู้
วิ
ถี
ไทยหรื
อวั
ฒนธรรม
ไทยจากแหล่
งความรู้
ต่
าง ๆ เช่
น ผู้
เฒ่
าผู้
แก่
ผู้
รู้
เรื่
องราว
ท้
องถิ่
นที่
นอกจากจะได้
ความรู้
ย้
อนหลั
งไปเห็
นความเป็
นมา
ของวิ
ถี
ชี
วิ
ตของชุ
มชนย่
านนั้
นแล้
ว เยาวชนยั
งได้
ทำ
�ให้
ผู้
สู
งวั
ย
ได้
มี
ความสุ
ขที่
ได้
อยู่
ใกล้
ชิ
ดกั
บลู
กหลานและได้
พู
ดคุ
ยกั
น
ในสิ่
งที่
ท่
านเหล่
านั้
นรู้
ดี
หรื
อตามสถานที่
ที่
เป็
นแหล่
งเรี
ยนรู้
ต่
าง ๆ ทั้
งในสถานศึ
กษาและนอกสถานศึ
กษา เพื่
อให้
มี
ความรู้
เป็
นพื้
นฐานเกี่
ยวกั
บชี
วิ
ตความเป็
นอยู่
ของชุ
มชน
ของตนอย่
างละเอี
ยดและชั
ดเจน หลั
งจากนั้
น เยาวชนก็
ฝึ
กหั
ดปฏิ
บั
ติ
ตนเองให้
มี
ความรู้
ในสาขานั้
น ๆ เช่
น ภาษา
วรรณกรรม ศิ
ลปะ ดนตรี
อาหาร เพลง การแต่
งกาย การ
แสดง เป็
นต้
น ความรู้
เหล่
านี้
ย่
อมเป็
นประโยชน์
ต่
อเยาวชน
เองโดยตรง ทำ
�ให้
เป็
นคนที่
มี
ทั้
งความรู้
และมี
คุ
ณค่
าในฐานะ
ผู้
รู้
ผู้
สนใจในวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นนั้
น ๆ และหากเยาวชนได้
ศึ
กษาค้
นคว้
ามากยิ่
งขึ้
นย่
อมจะทำ
�ให้
เชี่
ยวชาญมากขึ้
น เป็
น
เสน่
ห์
สำ
�หรั
บตนเอง ทำ
�ให้
เกิ
ดความโดดเด่
นกว่
าบุ
คคลอื่
น
เพราะเยาวชนได้
อยู่
กั
บบรรยากาศและชี
วิ
ตวั
ฒนธรรมนั้
น ๆ
มาตั้
งแต่
เกิ
ดย่
อมมี
ความได้
เปรี
ยบกว่
าบุ
คคลภายนอกที่
จะ
เรี
ยนรู้
และทำ
�ความเข้
าใจ