Page 51 - sep53

Basic HTML Version

๔๙
การให้
ศู
นย์
วั
ฒนธรรมเป็
นสถานที่
รองรั
บกิ
จกรรมสร้
างสรรค์
การสร้
างกลุ่
สมาคมอาชี
พสร้
างสรรค์
การสร้
างระดั
บมาตรฐานการจั
ดการท่
องเที่
ยวเชิ
วั
ฒนธรรม และการสร้
างเสริ
ม สั่
งสม และถ่
ายทอดวั
ฒนธรรมสู่
คนรุ่
นใหม่
เป็
นต้
น”
ต่
อมาเป็
การวิ
พากษ์
ผลงานวิ
จั
เรื่
องดั
งกล่
าวโดย
ผศ.ดร.พงศ์
พั
นธ์
อนั
นต์
วรณิ
ชย์
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย นายสุ
รศั
กดิ์
สรรพิ
ทั
กษ์
เสรี
อาจารย์
พิ
เศษคณะนิ
เทศศาสตร์
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย และ
นายสิ
ริ
ศั
กดิ์
คชพั
ชริ
นทร์
ประธานบริ
หารบริ
ษั
ท อิ
มเมจิ
แมกซ์
จำ
�กั
ซึ่
งทุ
กท่
านได้
ให้
ความคิ
ดเห็
นและข้
อเสนอแนะ อาทิ
“๑. การทำ
�ฐานข้
อมู
ความรู้
ทางวั
ฒนธรรมนั้
น สวช.จะต้
องดำ
�เนิ
นการอย่
างจริ
งจั
ง ๒. การทำ
�วิ
จั
ไม่
ควรเลื
อกแค่
๔ อุ
ตสาหกรรม แต่
ควรจะขยายออกไปในเรื่
องอื่
นๆ ด้
วย
อาทิ
ด้
านอาหาร ผ้
าไทย ภู
มิ
ปั
ญญาท้
องถิ่
น เป็
นต้
น ๓. การวิ
จั
ยนี้
ควรชี้
ให้
เห็
นอย่
างชั
ดเจนด้
วยว่
าทำ
�ไมประเทศต่
างๆ จึ
งหั
นมาใช้
นโยบายเศรษฐกิ
สร้
างสรรค์
เช่
น ประเทศเกาหลี
รั
ฐบาลของเขามี
การดำ
�เนิ
นงานส่
งออก
วั
ฒนธรรมของประเทศอย่
างไรจึ
งได้
ประสบความสำ
�เร็
จ ทำ
�ให้
นั
กท่
องเที่
ยว
หั
นมาท่
องเที่
ยวในประเทศของเขาเป็
นจำ
�นวนมาก และควรทำ
�การวิ
จั
ยวั
ยรุ่
ไทยด้
วยว่
าทำ
�ไมจึ
งชื่
นชอบวั
ฒนธรรมของเกาหลี
เพื่
อนำ
�ข้
อมู
ลเหล่
านี้
มาเป็
นแนวทางดำ
�เนิ
นนโยบายเศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
ของไทยต่
อไป และ
๔. เห็
นด้
วยกั
บบทสรุ
ปของงานวิ
จั
ยชิ้
นนี้
ว่
า สวช. จะต้
องรี
บดำ
�เนิ
นการใน
เรื่
องการสร้
างฐานข้
อมู
ลทางวั
ฒนธรรมเพื่
อตอบสนองการใช้
งานในระดั
นโยบาย การสร้
างกลุ่
มสมาคมอาชี
พสร้
างสรรค์
การสร้
างระดั
บมาตรฐาน
การจั
ดการท่
องเที่
ยวเชิ
งวั
ฒนธรรม การสร้
างเสริ
ม สั่
งสม และถ่
ายทอด
วั
ฒนธรรมสู่
คนรุ่
นใหม่
รวมทั้
งบู
รณาการความร่
วมมื
อกั
บหน่
วยงานอื่
นที่
เกี่
ยวข้
อง อาทิ
กระทรวงอุ
ตสาหกรรม กระทรวงพาณิ
ชย์
ในเรื่
องของการ
ส่
งเสริ
มอุ
ตสาหกรรมศิ
ลปะและหั
ตถกรรม กระทรวงการท่
องเที่
ยวและกี
ฬา
ในเรื่
องของการท่
องเที่
ยวเชิ
งวั
ฒนธรรม เป็
นต้
น”
ปิ
ดท้
ายด้
วยการบรรยายเรื่
อง
“การขั
บเคลื่
อนยุ
ทธศาสตร์
การ
เสริ
มสร้
างความเข้
มแข็
งทางวั
ฒนธรรมของสั
งคมไทยระยะที่
๑”
โดย
ดร.อมรวิ
ชช์
นาครทรรพ สถาบั
นรามจิ
ตติ
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
“การวิ
จั
ยนี้
ได้
ดำ
�เนิ
นการวิ
จั
ยโดยการติ
ดตามสภาวการณ์
ทางวั
ฒนธรรม
ของประเทศ การสร้
างหลั
กสู
ตรโรงเรี
ยนทำ
�หนั
งวั
ฒนธรรมร่
วมกั
บโครงการ
ยุ
ววิ
จั
ยประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นของ สกว. และการนำ
�ผลการวิ
จั
ยมาผลิ
สารคดี
รณรงค์
ทางวั
ฒนธรรม ซึ่
งผลจากการวิ
จั
ยสามารถสรุ
ปออกมาเป็
ข้
อเสนอแนะเชิ
งยุ
ทธศาสตร์
ได้
ว่
๑. ควรผลั
กดั
นยุ
ทธศาสตร์
การวิ
จั
ทางวั
ฒนธรรมอย่
างต่
อเนื่
อง
โดยเฉพาะการดำ
�เนิ
นการสำ
�รวจสภาวการณ์
ทางวั
ฒนธรรมเชิ
งรุ
กที่
เข้
าถึ
งและเท่
าทั
และมี
การพั
ฒนากรอบแนวคิ
และเครื่
องมื
อในการเก็
บข้
อมู
ลอย่
างสม่ำ
�เสมอ เพื่
อให้
กระทรวงวั
ฒนธรรม
มี
ข้
อมู
ลที่
จำ
�เป็
นสำ
�หรั
บการตั
ดสิ
นใจทั้
งเชิ
งนโยบายและยุ
ทธศาสตร์
อย่
าง
เพี
ยงพอ
๒. การขยายผลเชิ
งยุ
ทธศาสตร์
ในงานผลิ
ตสื่
อทางวั
ฒนธรรม
สำ
�หรั
บเยาวชน
โดยเฉพาะงานโรงเรี
ยนทำ
�หนั
งวั
ฒนธรรม ซึ่
งเป็
นตั
วอย่
าง
ที่
เด่
นชั
ดของการอาศั
ยการวิ
จั
ยประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นของเยาวชนเป็
เครื่
องมื
อช่
วยเปิ
ดพื้
นที่
การเรี
ยนรู้
ทางวั
ฒนธรรมสำ
�หรั
บเยาวชนรุ่
นใหม่
๓. การดำ
�เนิ
นยุ
ทธศาสตร์
ต่
างๆ แบบพหุ
ภาคี
การ
ทำ
�งานเชิ
งรุ
กของกระทรวง
วั
ฒนธรรมจะต้
องอาศั
ความร่
วมมื
อของหลายฝ่
าย
เช่
น การขั
บเคลื่
อนงานวิ
จั
ยร่
วมกั
บมหาวิ
ทยาลั
ยหรื
อกระทรวงศึ
กษาธิ
การ
เป็
นต้
น ซึ่
งการทำ
�งานแบบพหุ
ภาคี
จะช่
วยเสริ
มพลั
งการทำ
�งานของ
กระทรวงวั
ฒนธรรมได้
อย่
างมากในอนาคต
๔. ยุ
ทธศาสตร์
การขั
บเคลื่
อน
เชิ
งประเด็
ซึ่
งจากงานวิ
จั
ยสำ
�รวจสภาวการณ์
ทางวั
ฒนธรรมได้
ชี้
ประเด็
นที่
น่
าจะสร้
างกระแสรณรงค์
ทางวั
ฒนธรรมได้
หลายเรื่
อง อาทิ
วั
ฒนธรรมการใช้
ภาษาไทย วั
ฒนธรรมการทำ
�งานและความมี
ระเบี
ยบ
วิ
นั
ย วั
ฒนธรรมจิ
ตอาสา และวั
ฒนธรรมการวิ
พากษ์
และการมี
ส่
วนร่
วม
ทางการเมื
อง เป็
นต้
น”
สำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
มุ่
งหวั
งเป็
อย่
างยิ่
งว่
าการวิ
จั
ยเรื่
อง
“การส่
งเสริ
มมู
ลค่
าเพิ่
มทางเศรษฐกิ
จด้
วย
ทุ
นทางวั
ฒนธรรม”
และ
“การขั
บเคลื่
อนยุ
ทธศาสตร์
การเสริ
มสร้
าง
ความเข้
มแข็
งทางวั
ฒนธรรมของสั
งคมไทย”
จะเป็
นช่
องทางหนึ่
งให้
หน่
วยงานทั้
งภาครั
ฐและเอกชน หรื
อหน่
วยงานอื่
นที่
ดำ
�เนิ
นงาน
ด้
านวั
ฒนธรรม สามารถนำ
�องค์
ความรู้
ที่
ได้
จากงานวิ
จั
ยนี้
ไปใช้
ประโยชน์
และต่
อยอดการดำ
�เนิ
นงานด้
านวั
ฒนธรรมได้
ต่
อไป”