Page 52 - Jan53

Basic HTML Version

ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย มี
การปกครองในระบอบ
ป ร ะ ช า ธิ
ป ไ ต ย อั
น มี
พระมหากษั
ตริ
ย์
ทรงเป็
พระประมุ
ขมาตั้
งแต่
ปี
๒๔๗๕ แต่
ยั
งมี
ประชาชน
จำ
� น วน ไ ม่
น้
อยที่
ยั
ง ไ ม่
เ ข้
า ใ จความหมายของ
คำ
�ว่
าประชาธิ
ปไตยอย่
าง
ถู
กต้
อ ง จึ
ง ทำ
� ใ ห้
เ กิ
ปั
ญหาต่
าง ๆ มากมายอั
ส่
งผลต่
อการพั
ฒนาในด้
าน
ต่
าง ๆ ของประเทศ ไม่
ว่
จะเป็
นการพั
ฒนาคุ
ณภาพ
ชี
วิ
ต ข อ ง ป ร ะ ช า ช น
ส่
วนรวมในสั
งคมไทย เกิ
ปั
ญหาความขั
ดแย้
งทาง
ถึ
งประโยชน์
ส่
วนตน ประกอบกั
บประชาชนให้
ความ
สำ
�คั
ญของคุ
ณธรรมจริ
ยธรรม ลดน้
อยลง ล้
วนแล้
แต่
นำ
�มาซึ่
งปั
ญหาตามมาอย่
างมากมาย อั
นมี
ผลต่
การพั
ฒนาระบอบประชาธิ
ปไตยของประเทศไทยเป็
อย่
างยิ่
ง ทั้
งนี้
รั
ฐบาลปั
จจุ
บั
นได้
ตระหนั
กถึ
งความสำ
�คั
และได้
กำ
�หนดนโยบายด้
านศาสนา ศิ
ลปะและวั
ฒนธรรม
โดยการเสริ
มสร้
างบทบาทของสถาบั
นครอบครั
ร่
วมกั
บสถาบั
นทางศาสนา สถาบั
นการศึ
กษา และสถาบั
ทางสั
งคมอื่
น ๆ ในการปลู
กฝั
งค่
านิ
ยมและจิ
ตสำ
�นึ
ที่
ดี
และการเฝ้
าระวั
งทางวั
ฒนธรรมที่
มี
ผลกระทบต่
การเบี่
ยงเบนพฤติ
กรรมของเด็
กและเยาวชน รวมทั้
ความพยายามของรั
ฐบาลที่
จะแก้
ไขปั
ญหาเศรษฐกิ
ปั
ญหาทางสั
งคมของประเทศ และการปฏิ
รู
ปการเมื
อง
ตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิ
ปไตยอั
นมี
พระมหากษั
ตริ
ย์
ทรงเป็
นประมุ
ข โดยการส่
งเสริ
มการ
พั
ฒนาประชาธิ
ปไตยและระบบการเมื
องให้
มี
ความ
มั่
นคงและเป็
นที่
ยอมรั
บของสากล รวมทั้
งส่
งเสริ
มและ
พั
ฒนาการมี
ส่
วนร่
วมของประชาชน จึ
งจำ
�เป็
นต้
องพั
ฒนา
วั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตยโดยเร่
งด่
วน
กระทรวงวั
ฒนธรรม โดยสำ
�นั
กงานคณะกรรมการ
วั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
จึ
งได้
จั
ดการสั
มมนา “วั
ฒนธรรม
ประชาธิ
ปไตย รวมไทยเป็
นหนึ่
ง”
ขึ้
นเมื่
อวั
นที่
มกราคม ๒๕๕๓ เพื่
อให้
สอดคล้
องกั
บแนวนโยบาย
แห่
งรั
ฐ โดยการขั
บเคลื่
อนการเสริ
มสร้
างวั
ฒนธรรม
ประชาธิ
ปไตย มุ่
งเน้
นการมี
ส่
วนร่
วมของชุ
มชน ประชาชน
และสนั
บสนุ
นให้
สถาบั
นต่
าง ๆ ทางสั
งคม เกิ
ดความ
ตระหนั
กและนำ
�หลั
กประชาธิ
ปไตย รวมถึ
งหลั
กธรรมตาม
รอยเบื้
องพระยุ
คลบาทของพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ใช้
เป็
นแนวทางในการประพฤติ
ปฏิ
บั
ติ
ในการดำ
�เนิ
นชี
วิ
ด้
านการเมื
องและปั
ญหาอื่
น ๆ ทั้
งปั
ญหาเศรษฐกิ
ปั
ญหาสิ่
งแวดล้
อม ปั
ญหาสั
งคมและวั
ฒนธรรมที่
เกิ
ขึ้
นพร้
อมกั
บความเจริ
ญทางด้
านวั
ตถุ
รวมถึ
งปั
ญหา
คุ
ณธรรมจริ
ยธรรม ซึ่
งเมื่
อสั
งคมมี
การพั
ฒนาและเกิ
การเปลี่
ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี
และบริ
บทของ
สั
งคม ทำ
�ให้
เกิ
ดการปรั
บเปลี่
ยนพฤติ
กรรม วิ
ถี
ชี
วิ
ตของ
ประชาชนในสั
งคม เกิ
ดค่
านิ
ยมที่
ไม่
พึ
งประสงค์
ต่
าง ๆ
ขึ้
น เช่
น การหาประโยชน์
ใส่
ตนเอง โดยไม่
คำ
�นึ
งถึ
ประโยชน์
ส่
วนรวม การเอารั
ดเอาเปรี
ยบ ฯลฯ ซึ่
งจาก
เหตุ
การณ์
ต่
าง ๆ ที่
ผ่
านมานั้
นเป็
นบทเรี
ยนที่
ประจั
กษ์
ชั
ดว่
าประเทศใดที่
ประชาชนในชาติ
ขาดความสามั
คคี
ขาดจิ
ตสำ
�นึ
กถึ
งประโยชน์
ส่
วนรวมของประเทศ คำ
�นึ
๕๐