Basic HTML Version
ปร ะ เ พณี
ส า รท เ ดื
อนสิ
บข อ ง ช า วนครศรี
ธ ร รมร า ช
เป็
นประเพณี
ที่
ลู
กหลานจะได้
ทำบุ
ญอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศลให้
แก่
บรรพบุ
รุ
ษที่
ล่
วงลั
บไปแล้
ว เมื่
อถึ
งวั
นแรม ๑๓ ค่
ำ เดื
อน ๑๐ ชาวเมื
องคอนจะออก
มาจั
บจ่
ายสิ่
งของที่
จะนำมาร่
วมในงานบุ
ญเพื่
อจั
ดหฺ
มฺ
รั
บ (อ่
านว่
าหมั
บ)
และในวั
นแรม ๑๔ ค่
ำ เดื
อน ๑๐ ซึ่
งเรี
ยกกั
นว่
า
“วั
นหลองหฺ
มฺ
รั
บ”
โดยหฺ
มฺ
รั
บที่
จั
ดทำขึ้
นจะประกอบไปด้
วยของกิ
นของใช้
ต่
างๆ และที่
ขาดไม่
ได้
คื
อขนม ๕ อย่
าง ได้
แก่
ขนมพอง ขนมลา ขนมกง ขนมบ้
า
ขนมดี
ซำ ส่
วนในวั
นแรม ๑๕ ค่
ำ เดื
อน ๑๐ จะมี
การยกหฺ
มฺ
รั
บไปยั
ง
วั
ดต่
างๆ เมื่
อเสร็
จจากพิ
ธี
สงฆ์
แล้
ว หฺ
มฺ
รั
บจะถู
กยกไปวางที่
กำแพงวั
ด
ใต้
ต้
นไม้
หรื
อวางไว้
บนศาลาที่
จั
ดทำขึ้
นเรี
ยกว่
า
“หลาเปรต”
เพื่
อให้
พระสงฆ์
สวดบั
งสุ
กุ
ลอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศล หลั
งจากเสร็
จพิ
ธี
แล้
วผู้
เข้
าร่
วมใน
พิ
ธี
จะเข้
าไปแย่
งชิ
งอาหารและสิ่
งของในหฺ
มฺ
รั
บ ด้
วยมี
ความเชื่
อว่
า
อาหารเหล่
านี้
เป็
นของที่
เหลื
อจากบรรพบุ
รุ
ษ หากผู้
ใดได้
กิ
นแล้
วจะได้
รั
บกุ
ศลแรง พิ
ธี
นี้
เรี
ยกว่
า
“ชิ
งเปรต”
Ò
ฉบั
บ เดื
อนกั
นยายน พ.ศ. ๒๕๕๒
ร้
อยถ้
อยความคิ
ด
บุญเดือนสิบ
Ú
บทบรรณาธิ
การ
เรื่องจากปก
สารบัญ
๑๐
ภู
มิ
ปั
ญญาไทย
มรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้
ที่ฝากแฝงไว้ในผืนผ้าซิ่นตีนจก
ไท-ยวน
๑๘
วั
ฒนธรรมภาษา
คำที่ใช้ในรู
ปปฏิเสธ
เรื่
องจากปก
บทบรรณาธิ
การ
ศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
หรื
อ Creative Economy กำลั
งเป็
นข่
าวใหญ่
ตามหน้
าหนั
งสื
อพิ
มพ์
ทุ
กฉบั
บ หลายหน่
วยงาน
ที่
เกี่
ยวข้
องจึ
งรั
บลู
กและเกิ
ดโครงการต่
างๆมากมาย รวมถึ
งกระทรวงวั
ฒนธรรมซึ่
งถื
อเป็
นหน่
วยงานหลั
ก
ที่
สำคั
ญ...ในข้
อเท็
จจริ
งกระทรวงวั
ฒนธรรมได้
ดำเนิ
นการอยู่
แล้
วในหลายส่
วน เพี
ยงแต่
อาจจะยั
งมองไม่
เห็
นเป็
น
รู
ปธรรมชั
ดเจน เนื่
องจากมี
การปรั
บเปลี่
ยนนโยบายในการดำเนิ
นงานอยู่
บ่
อยครั้
ง จึ
งทำให้
งานอาจชะงั
กงั
นไปบ้
าง
แต่
ก็
ยั
งคงขั
บเคลื่
อนไปอย่
างช้
าๆได้
พร้
าเล่
มงาม คนที่
อยู่
ในแวดวงวั
ฒนธรรมรู้
อยู่
เต็
มอกว่
า..งานวั
ฒนธรรมนั่
น
แหละ ที่
จะช่
วยฟื้
นฟู
เศรษฐกิ
จได้
อย่
างแท้
จริ
ง เนื่
องจากประเทศไทยเรามี
ต้
นทุ
นทางวั
ฒนธรรมอยู่
อย่
างมากมาย
และหลากหลาย แต่
ขาดการสนั
บสนุ
นและเข้
าไปบริ
หารจั
ดการอย่
างเป็
นระบบและต่
อเนื่
อง ...(ขอเน้
นว่
าต่
อเนื่
อง)
จึ
งทำให้
การส่
งเสริ
มและพั
ฒนาเป็
นไปอย่
างกระท่
อนกระแท่
น ในครั้
งนี้
รั
ฐบาลลุ
กขึ้
นประกาศนโยบาย
“เศรษฐกิ
จ
สร้
างสรรค์
”
อย่
างชั
ดเจน จึ
งเป็
นโอกาสที่
ทุ
กภาคส่
วนจะต้
องร่
วมมื
อกั
นขั
บเคลื่
อนงานวั
ฒนธรรมเพื่
อนำไปสู่
เศรษฐกิ
จอย่
างสร้
างสรรค์
แต่
ทั้
งนี้
สิ่
งที่
ควรจะทำควบคู่
ไปกั
บการสร้
างมู
ลค่
าทางเศรษฐกิ
จนั่
นก็
คื
อ การสร้
างความรู้
ความเข้
าใจ และการบ่
มเพาะต้
นกล้
าทางวั
ฒนธรรม ให้
สามารถพั
ฒนาต่
อยอดออกไป โดยไม่
ลื
มรากเหง้
า
ทางวั
ฒนธรรมและวิ
ถี
ชุ
มชนของตน ..นั่
นแหละจึ
งจะเรี
ยกว่
าเกิ
ดการพั
ฒนาอย่
างยั่
งยื
น
เ
Ù
วั
ฒนธรรมไทย
ทุนวัฒนธรรม
สู
่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
๑๔
วั
ฒนธรรมสั
ญจร
ท่องโลกพิพิธภัณฑ์…
เรียนรู
้โลกกว้าง
ตั้งแต่เล็ก
๖
ร้
อยเรื่
องวั
นสำคั
ญ
วันสารทไทย
เยาวชน…คนสำคัญของชาติ