Page 88 - Culture3-2016
P. 88









เทคนคิ อยทู่ กี่ ารลงนา้ หนกั มอื ดว้ ย 


ลงแรงเกนิ ไปไมก้ แ็ ตก


วงลอ้ ไมไ้ มใ่ ชน่ กึ ถงึ แตค่ วามสวยงาม 


ตอ้ งทนทาน บางคนใชก้ าวอดั เพราะงา่ ยดี


แตผ่ มจะทา แบบทพี่ อ่ เคยทา









๒











แม้ชีวิตจะหมุนเวียนเข้ามาจนถึงปีท่ี ๘๒ แต่ จันทร์ 

ขตั ตนิ นท์ 
สล่าทาวงล้อไม้สาหรับรถม้าแห่งบ้านลาปางหลวง 

อา เภอเกาะคา จงั หวดั ลา ปาง กย็ งั คงนงั่ อยตู่ รงมมุ นนั้ ทา่ มกลาง 

เครื่องไม้เครื่องมือที่บางชิ้นตกทอดมาตั้งแต่สมัยทาเกวียน 


กบั พอ่ มนั ดเู นนิ่ นาน แตใ่ นความทรงจา ของชายชรา ภาพเกวยี น 
๑
นบั สบิ ๆ เลม่ ตอ่ เดอื นทพี่ อ่ เพยี รทาเพอื่ สง่ ไปขายเมอื งเพชรบรู ณ์ 


ยังคงแจ่มชัดเสมอ

เดิมทีพ่อของสล่าจันทร์เป็นเพียงลูกมือช่วยทาเกวียน 

ในหมู่บ้านอื่น สมัยนั้นเกวียนคือพาหนะจาเป็นที่ชาวบ้านใช้ จริงอยู่ท่ีภาพกองเกวียนกับเสียงพูดคุยสนุกสนานของบรรดา 


ลากไม้ บางคนไปลากไกลถึงเมืองลาพูนก็มี เม่ือสั่งสม คนทาเกวียนจะเลือนหายไปกับอดีต แต่ที่เข้ามาทดแทนคือ 

ประสบการณ์จนชานิชานาญพ่อกอ็อกมาทาเกวียนด้วยตวัเอง งานฝีมือรูปแบบใหม่น่ันคือการทาล้อรถม้าด้วยไม้ทุกวันน้ี 

ซ่ึงต่อมาบ้านก็กลายเป็นศูนย์กลางการทาเกวียนมีชาวบ้าน แม้เวลาจะผ่านมาเกอืบ๒๐ปีแต่ล้อรถม้าของสล่าจนัทร์กย็งั 


มารวมตัวกันทาเกวียนอย่างคึกคัก สล่าจันทร์เห็นพ่อทา คงทาด้วยไม้เป็นเอกลักษณ์อยู่นั่นเอง ส่วนค่าตอบแทนนับว่า 

เกวียนมาต้ังแต่เด็กเม่ือโตพอที่จะหยิบจับงานไม้ก็ทาได้อย่าง คุ้มค่าเหนอื่ยเลยทีเดยีว


คล่องแคล่ว เพราะมที ักษะเชงิ ช่างเป็นทนุ เดิมอยู่บ้าง

กาลเวลาเปลี่ยนผ่านมาถึงยุคที่เกวียนกลายเป็น ๑ วงล้อไม้ประกอบดว้ ยดุมลอ้ ซ่ีล้อ และฝกั สล่าจันทรเ์ ชื่อมนั่ ในวิธียดึ ตอ่ ไมแ้ บบ 

พาหนะล้าสมัยและไม้ก็หายากข้ึน อาชีพคนทาเกวียนจาต้อง โบราณ ไมว่ า่ จะเปน็ การบาก การเจาะ การตอกสลกั เขา้ เดอื ย หรือคะเน 
ด้วยสายตา เหมือนเม่ือครง้ั ทาํา ล้อเกวียนกบั พอ่

ยุติ สล่าจันทร์ในตอนน้ันอายุราว ๖๐ กว่าปีจึงหันมาทาล้อ ๒ หลังเรียนรู้ภมู ิปญั ญาจากผเู้ ปน็ พ่อไดไ้ มก่ ่ีเดือน ทองสุข ขัตตนิ นท์ กล็ งมือทาํา วงล้อไม้ 

รถม้าตามที่มีลูกค้าคนหนึ่งสงั่ ความรู้ความชา นาญจากการทา ชุดแรกในชวี ติ ในภาพเขากําาลงั ตอกฝักเขา้ กับซลี่ ้อ หลงั จากน้ันจะใช้ตัวสลกั
ซึ่งเปน็ เศษไม้รปู สามเหลีย่ ม ตอกเข้าไปในรอยตอ่ ระหว่างฝักจนแน่นหนาอกี ครัง้
ลอ้ เกวยี นถกู นา มาปรบั ใชก้ บั การทา ลอ้ รถมา้ เพราะโดยรวมแลว้ 
๓ วงล้อไม้ใกล้จะสมบรู ณ์แลว้ เหลือเพียงขัน้ ตอนรดั เหล็ก หรอื ใสข่ อบล้อเหล็กให้กับ

ล้อเกวียนต่างจากล้อรถม้าแค่เพียงขนาดที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเอง
วงลอ้ ไม้ ซง่ึ ตอ้ งอาศยั ความรว่ มแรงรว่ มใจกนั ของคนในครอบครวั เมอ่ื ใสข่ อบลอ้ เรยี บรอ้ ย ๓ 
กเ็ ปน็ อนั เสรจ็ สน้ิ ขน้ั ตอนในสว่ นของสลา่ จนั ทร์ จากนน้ั ลกู คา้ จะนาํา ไปใสย่ างตอ่ ไป

86




   86   87   88   89   90